Happy New Year 2011

สวัสดีปีใหม่ 2554
Happy New Year 2011

11Top

ส.ค.ส. 2554

สดุดีปีใหม่

หลังจอดรถโตโยต้าสีดำแวะข้างทางซื้อกาแฟ 1 ถุง

ชายผู้นั้นขับรถคนเดียวออกไป แล้วจอดติดไฟแดงที่สี่แยก

จนมีรถตำรวจซึ่งขับนำรถเบนซ์มาได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้นั้นติดไฟแดง

“นี่เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรี ขอให้หลบไป” แต่รถผู้นั้นไม่หลบ

ตำรวจจึงลงมาที่รถของชายผู้นั้นและเรียกให้ลงจากรถ

พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ ตำรวจเห็นแล้วแทบเป็นลมล้มทั้งยืน

ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถตกใจจนต้องวิ่งลงมาดูพร้อมกับรัฐมนตรี

ทั้งหมดขาสั่น อ่อนแรง นั่งลงไปกับพื้นทันที

ชายคนนั้นเป็นผู้ที่อยู่บนธนบัตร คือ “ในหลวงองค์ปัจจุบัน”

“พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกับจะต้องฝ่าไฟแดง” ……………..

………ตำรวจทูลว่า ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า

ทรงตรัสว่าเราไม่ต้องให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอก เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถท่านรัฐมนตรีเถอะ

แล้วในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้นโดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไป


 

ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

อย่าโกรธใครเลย

เมื่อคนเราเริ่มริษยา

จิตใจจะร้อนและร้าย

สมองส่วนโง่จะแอคทีฟ

โปรเจคท์พยาบาทจะบังเกิด

ด้วยวัตถุประสงค์มุ่งร้ายทำลายเขา

แต่เผาตัวเองโดยไม่รู้ตัว

อัจฉริยะ… จะเรียนรู้การดับริษยา

คนลืมตัว… จะใช้ปฏิบัติตามคำสั่งสมองที่เก่งแต่โง่

ก่อเกิดการวางอำนาจ ข่มใคร ๆ หิวหาความสะใจ

คนที่เจ็บที่สุดคือตนเอง


 

2554…ดี

ทุกเรื่องที่คิด

ทุกกิจที่ทำ

ทุกคำที่พูด


ขอให้มีอิสรภาพในชีวิต

ทำสิ่งดี ๆ โดยไม่ต้องมีคนเห็น

ดีให้ได้โดยไม่ต้องมีใครจดจำ

ปิติใจได้เองโดยไม่ต้องมีใครปรบมือ

อิสระจากแรงริษยา โลภ รัก ชิงชัง

ถึงเป็นซุปเปอร์สตาร์ก็ปรารถนาอยู่หลังเวที

ไม่ต้องบิน สูงลิ่ว พ้นทิวเขา

แค่บินเอา เท่าพลัง ยังบินไหว

ท่าที่บิน ไม่ต้องหรู อย่างผู้ใด

แค่สุขใจ บินเสรี เท่านี้พอ


 

ขอให้สดชื่นแจ่มใส

มีบ้างบางครั้งโกรธ วีนผู้ร่วมงาน เพราะลืมตัว

ควรทำอย่างไรเมื่อมันพลุ่งพล่านออกมา

ฝึกฝนมีสติรู้ตัว เป็นลำดับแรก แล้วหยุดพูด

ทุกคำที่พูดเวลาโกรธทำให้คุณดูแย่และหยาบ แม้ถ้อยคำจะไพเราะ

หัวหน้าจะดูวางอำนาจ สมเพช ลูกน้องจะดูดื้อรั้น ยะโส

บรรยากาศแห่งความร้อนบวกโง่จะปกคลุมทั้งองค์กร

หยุดตัดสินใจ ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเล็ก ไม่เซ็นสั่งงาน ไม่ชี้แจงเจ้านาย

มันเป็นวินาทีที่เสี่ยงต่อความผิดพลาด

หลับตา ดูใจ ให้อภัย ไม่สร้างอกุศลร่วมกัน ไม่เติมไฟแก่กัน

ระบายเชิงบวก ซักผ้า เก็บขยะ อ่านหนังสือดี ๆ

ใจสงบ แล้วค่อยคุยกัน สุดยอดปัญญาย่อมรู้ว่า

ไม่มีใคร หรืออะไร ควรค่าแก่การถือสา

หน้าที่เรา ขอโทษ หรือให้อภัย ทำความเข้าใจ

แม้ว่าอาจต้องวางเฉยกับใครสักคน


 

ขอให้เป็นปีที่มีค่าสูงส่ง

จากบทสนทนากับชายอนาถาวัย 60

“สิ่งสำคัญที่ลุงปรารถนาที่สุดในชีวิต

คืออะไรครับ เงินเดือน บ้าน รถ หรืออะไร?”

ลุงตอบว่า.. “คือการที่มีอะไรให้ผมรับผิดชอบบ้าง”

!!! เบื้องลึกแห่งใจ… ใคร ๆ ก็ปรารถนาคุณค่า

อันนำมาซึ่งปิติเบิกบานใจในชีวิต

โชคดีสักเพียงใดที่เราต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ

แล้วใยเราจะมิทำหน้าที่นี้ให้สุดยอด


 

ขอให้มีความสุข

ความสุขไม่ได้อยู่ที่มี แต่อยู่ที่พอ

คนทั่วไปพยายามมี

คนฉลาดพยายามพอ

รู้สึกขาดก็จะเอา รู้สึกพอก็จะให้

อิสรภาพที่แท้เกิดจากไร้ความกดดัน

ด้วยแรงแห่งรักโลภโกรธหลง


 

ขอให้อยู่อย่างเป็นที่รัก

วันหนึ่งในห้องคลอด

เขาถือกำเนิดด้วยเสียงร้องจ้า

ราวกับว่าโลกนี้แสนโหดร้าย

ลืมแล้วปิดตาอย่างผวาหวาดหวั่น

แต่เป็นวันที่คนรอบข้างยิ้มแย้มต้อนรับ

อย่างปิติผ่องใสไปทั่วตระกูล

เราขออวยพร…สักวันที่เจ้าจะจากโลกนี้ไป

ขอให้มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มผ่องใส

แต่เป็นวันที่คนรอบข้างร้องไห้ปานจะขาดใจ


 

ขอให้รวย

วอร์เรน บัพเฟตต์ (Warren Buffet) มหาเศรษฐีโลก

เก็บเงินสะสมจากการส่งหนังสือพิมพ์ ซื้อไร่เล็ก ๆ ตอนอายุ 14 ปี

ยังคงอยู่บ้านเล็ก ๆ 3 ห้องนอนที่ซื้อไว้เมื่อ 50 ปีก่อน

เขารู้สึกว่าบ้านนี้มีพร้อมแล้ว ทั้งที่แม้แต่รั้วก็ไม่มี

ไปไหนมาไหนเอง.. ไม่มีคนคุ้มกัน ไม่เคยใช้เครื่องบินส่วนตัว

ทั้งที่เป็นเจ้าของบริษัทเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1

อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1

เขาไม่ใช้โทรศัทท์มือถือ ไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

แต่บริจาคเงินการกุศล 31,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

มีแล้วให้ ได้แล้วแบ่ง


 

ขอให้อยู่อย่างยิ่งใหญ่

ออกโอพีดีวันนี้ ตรวจคนไข้ไปแล้ว 3-4 ราย

บ้างคิดว่า…มันช่างน่าเบื่อจริง ๆ รออยู่สักกี่รายกันละนี่

บ้างคิดว่า…มันเป็นหน้าที่..ก็ทนทำไปดีกว่า

บางคนคิดว่า…นี่คืองานยิ่งใหญ่

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจแห่งพระราชบิดา

ใครต่อใครแวะเวียนมาหาเรา แล้วรู้สึกดีกลับบ้านไป

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ อยู่ที่ใจศรัทธาในงาน

ไม่ได้อยู่ที่ห้องผู้บริหาร หรืองานมากอิทธิพล

แต่อาจเป็นชิ้นงานเล็ก ๆ ของจิตใจที่ยิ่งใหญ่

แค่ฉลาดคิด ชีวิตอาจเปลี่ยนใหม่หมด

วันนี้ พรุ่งนี้ ซึมซับสิ่งดีๆ จากโอพีดีของเรา

 

Read More

Happy New Year 2012

สวัสดีปีใหม่ 2555
Happy New Year 2012

12Top

ส.ค.ส. 2555

เบื้องหน้า ฟ้าสลาย

สุริฉาย จะมืดมน

อุปสรรค จะเหลือล้น

ฝึกใจตน ไว้รอคอย

อุปสรรคความยากลำบาก ไม่มีความหมายอันใด เมื่อใจไม่สะเทือน


 

ขอให้ประสบความสำเร็จ

ความสำเร็จ

มิใช่ซุปเปอร์สตาร์ที่มาจากบ้านเอเอฟ

มิใช่อำนาจในพรรคของวงการเมือง

มิใช่การครอบครองอัครสถานดุจเพียงเวียงวัง

มิใช่ตำแหน่งที่มากอิทธิพลที่คนนบนอบ

เปล่าเลย… ความสำเร็จอยู่ที่สามารถ

ยืน เดิน นั่ง นอน ได้อย่างสุขใจ

นี่คือ ความสำเร็จที่แท้จริงของการมีชีวิต

ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่เรามี..แต่อยู่ที่เราพอ


 

ปีแห่งปัจจุบัน

มองไปข้างหน้าเพื่อก่อความหวัง

มองไปข้างหลังเพื่อเก็บบทเรียน

แต่ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างสุขใจ

จะวิตกกังวลไปใย

มันไม่ทำให้อดีตเปลี่ยนแปลง

มันไม่ทำให้อนาคตดีขึ้น

แต่ทำให้ปัจจุบันเลวลง


 

 12 02c

ปีแห่งการรู้เขารู้เรา

ในสำนักงาน ในภาควิชา ในสถาบัน

เรียนสูง รู้มาก สมองเยอะ

ทำไมใช้ชีวิตโง่ ๆ อึดอัดกันทั้งองค์กร

เป็นต้นตอแห่งความรำคาญ

ของคนรอบข้างอย่างไม่รู้ตัว

จริงแท้แล้ว… กับผู้คนรอบกาย

เราต้องใช้หัวใจให้มากกว่าเหตุผล

ชีวิตต้องการปัญญามากกว่าความรู้


 

ขอให้พบแต่สิ่งที่ดี ๆ

ทำแต่สิ่งดี ๆ จะพบแต่สิ่งดี ๆ

ไม่มีความดีใด ที่ทำแล้วไม่มีความสุข

ความเสียสละแม้เล็กน้อยก็ยิ่งใหญ่

มีเพียงรักและเสียสละเท่านั้น

ที่จะเรียกร้องรักและเสียสละจากผู้อื่นได้

เมื่อสบโอกาส ใยจะไม่เสียสละให้เต็มที่

เมื่อไม่มีโอกาส ใยจะไม่รีบหาโอกาส

เพราะความดีเป็นการลงทุนชนิดเดียวที่ไม่มีวันล้มเหลว

และโอกาสคือต้นทุนชนิดเดียวที่เก็บสต๊อคไม่ได้


 

ขอให้ยินดีมีสุข

วัน ๆ เอาแต่เล่น facebook ทำไมได้สองขั้น

โอพีดีก็ไม่ออก โออาก็ไม่เข้า เป็นศ.ได้ไง

เมื่อไฟริษยาเริ่มก่อตัว

คนเก่งจะได้สติและเกิดปัญญา

ดับไฟที่ใจตนแต่ต้นลม

คนโง่สมองดี..จะคิดการร้าย

ร้อนระอุกับเรื่องกลั่นแกล้ง

แรงด้วยคำพูดให้ร้าย

ป้ายสีอย่างปราดเปรื่อง

มันอาจคือความฉลาดในโลกมืด

ในการยืมมือผู้อื่นมาเผาตนเอง

ร่วมยินดี

ยินดีจะเพิ่มขึ้น

ร่วมทุกข์

ทุกข์จะน้อยล


ขอให้มีสิ่งดี ๆ ไว้จดจำ

“คุณยายส่าพอ พาครึ ชาวกะเหรี่ยง อายุ 66 ปี

ค้างค่ารักษามดลูกอักเสบ 3000 บาท

ต่อโรงพยาบาลสวนดอก เมื่อปี 2510

เพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา

ซึ่งขณะนั้นมีค่ารถ 23 บาทที่เดินทางไกลกว่า 200 กม.

43 ปีที่คุณยายสะสมจากการทำงานรับจ้างได้จนครบ 3000 บาท

จึงส่งมาชำระหนี้วันที่ 18 ส.ค. 2553

โดยที่หลักฐานทางโรงพยาบาลไม่เหลือแล้ว”

บันทึกไว้ในส.ค.ส. นี้

เพราะคนทั่วไปย่อมอยากจดจำคนดี มากกว่าคนรวย และคนมีอำนาจ

การแสวงหาความดี มีความสุขกว่าการแสวงหาเงิน และอิทธิพล


 

ปีแห่งน้ำใจในสายเลือด

ขณะที่ท่านมหาตะมคานธีกำลังขึ้นรถไฟไปต่างเมืองอยู่นั้น…

รองเท้าข้างหนึ่งของท่านตกลงจากรถไฟ

ท่านไม่สามารถลงมาเก็บรองเท้าท่านได้ทัน

เพราะรถกำลังเคลื่อนตัวออกจากสถานีรถไฟพอดี

หัวใจไวกว่าสมอง….ท่านรีบถอดรองเท้าของท่านอีกข้างหนึ่ง

แล้วโยนออกไปใกล้ๆ ที่เดียวกันกับรองเท้าของท่านที่ตกลงไปนั้น

ผู้ติดตามถามท่านว่า “ทำไมท่านจึงทำเช่นนั้น”

“เพื่อว่าถ้ามีคนเก็บรองเท้าได้ เขาจะได้มีรองเท้าใส่ครบทั้งสองข้าง”

ประวัติศาสตร์เล็ก ๆ หน้านี้..

คงไม่ทำให้เราได้ความรู้อะไร แต่ทำให้เราได้ปัญญา


 

 12 1

ปีแห่งความยิ่งใหญ่

ยิ่งใหญ่ แต่เรียบง่าย..พอเพียง

ในหลวงท่านยังมีรองเท้า

คู่โปรดของท่านคู่เดียว

ใส่แล้ว พังแล้ว ขาด

ท่านก็เอาไปซ่อม

และนี่คือหลอดยาสีพระทนต์

ที่ทรงใช้จริง ๆ

(โพสต์นี้..ไม่ต้องการให้แสดงความคิดเห็น แต่ต้องการให้แสดงความคิดถึง)

 

Read More

Happy New Year 2013

สวัสดีปีใหม่ 2556
Happy New Year 2013

13Top

ส.ค.ส. 2556

 สดุดีปีใหม่

“อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีไม่ร่ำรวย แต่ไม่อดตาย

ถ้าใครอยากร่ำรวยควรเป็นอาชีพอย่างอื่นที่ไม่ใช่แพทย์

อาชีพแพทย์ต้องยึดอุดมคติ คือเมตตา กรุณา”

พระราชดำรัส

บนเว็บหน้าแรกของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


 

 

ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

“คิดดี ๆ พูดดี ๆ”

ไม่มีต้นทุน

แต่กำไรมหาศาล

ในชีวิตคนเรานี้

…มีความสุขความดีมากมาย

ที่เราเก็บเกี่ยวได้โดยไม่ต้องใช้เงินทอง

ความสุขความดีมิได้อยู่ที่มีมากแค่ไหน

หรือลาภยศสักเพียงใด แต่อยู่ที่พอใจหรือไม่

ความเพียงพอเป็นบ่อเกิดแห่งความเผื่อแผ่

เราอาจไม่สามารถมีเงินนับร้อยล้าน

แต่เราสามารถสร้างชิวิตให้มีค่าเกินกว่าร้อยล้าน


 

ปีแห่งบุญกุศล

บุญแห่งส.ค.ส. นี้

โปรดช่วยขจัดปัดเป่าธุลีมืดมน

สิ่งอัปมงคลออกไป

เฉกเช่น นิสัยชอบใส่ร้าย

ทำงานสายเป็นอาจิณ

ไฟร้อนริษยา ที่ชอบสร้างวาจาเชือดเฉือน

ท่าทีเย่อหยิ่ง หลงตน ที่ผู้คนรำคาญ

ความขุ่นแค้นใคร ๆ ที่มีความเห็นแตกต่าง

ขอจงจางหายไป…จากใจของเรา


 

ขอพรให้เป็นที่รัก

เพียงแค่ลดตัวตน..ทุกคนก็จะเป็นที่รัก

บางครั้งเราอาจเผลอสำคัญตน ว่าศึกษาสูง

มี authority มีระดับ มีตำแหน่ง

โฉบเฉี่ยวเชิดไปมาบนหน้าเว็บ

กรีดกรายอยู่ในสังคมนี้อย่างหยิ่งทะนง

อาจไม่รู้เลยว่า..ตนคือต้นตอแห่งความรำคาญในย่านนี้

อาจไม่เคยรู้เลยว่า…. ถ้าโลกนี้ไม่มีเรา

ผู้คนแถวนี้จะรู้สึกดีขึ้น

เราจึงจำเป็นต้องรู้สึกตัวและรู้สึกดีกับคนข้างเคียง

แค่ถ่อมตนลงอีกนิด.. ชีวิตก็สูงขึ้น


 

คุณงามและความรัก

ทุก ๆ เช้าตื่นขึ้นมาถามหาสิ่งสวยงามในชีวิต

วันนี้จะทำสิ่งดีใด….แก่ใครได้บ้าง

แสงแรกแห่งอรุโณทัย… ให้อุ่นไอในยามสาดส่อง

สายน้ำให้ความชุ่มชื่น

นกร้องให้ความไพเราะจับใจ

ต่างยินดีให้ออกไป .. ไม่คอยใครปรบมือ

หมั่นมีสิ่งดี ๆ ที่ไม่ต้องมีคนรับรู้

หมั่นมีความดีลับตาคน ให้ตนรักตน

ไม่รอคนกดไลค์… ไม่คอยใครคอมเมนต์


 

ปีแห่งความยินดี

ให้ให้มากกว่าที่ขอ

รับให้น้อยกว่าที่เขาหยิบยื่น

เมื่อเอ่ยคำว่า “ขอโทษ” จงสบตาเขาด้วย

เมื่อกล่าวคำว่า “ขอแสดงความยินดี”

ขอให้มีความยินดีอยู่ในใจ

ถ้าไม่มี

จงทำให้มีให้ได้


 

ขอให้ศรัทธาและกล้าหาญ

ทุกล้มได้ความรู้ ทุกแพ้ได้ประสบการณ์

สักกี่ล้มเหลวก็ไม่มีวันล้มเลิก

ปรับเทคนิค เปลี่ยนกลยุทธ์ สับเส้นทาง

วิกฤตปานใดก็ไม่หมดแรง

จอมยุทธ์แม้มีวันตาย แต่ใจสลายไม่เป็น

จะล้มเหลวสักกี่ครั้ง จะพลาดพลั้งสักกี่หน

ก็ยังถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน

หากความมุ่งมั่นยังเหมือนเดิม

เพราะความสำเร็จ

คือความสุขบนเส้นทาง มิใช่ที่ปลายฟ้า


 

เป็นปีแห่งความหมาย

ชีวิตที่รุ่งโรจน์มิใช่ชีวิตที่ไร้ปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆ

แต่อยู่ที่ไม่มีปัญหาใดทำให้หัวใจสะเทือนต่างหาก

ปีใหม่นี้…. ขอให้มีความยากลำบาก

มาบันดาลตนเป็นคนเข้มแข็ง

ขอให้มีเรื่องอันตรายน่ากลัว..

มาสร้างบทเรียนหาญกล้าฝ่าฟัน

ขอให้มีมากมายปัญหา…เป็นบ่อเกิดปัญญาและทักษะชีวิต

ขอให้มีคนเดือดร้อนวนเวียนเข้ามา เป็นนาบุญหว่านความรักกรุณา

ปีใหม่นี้… โชคดีปานใดที่ฟ้าดินประทานโอกาสให้เราถึงปานนั้น

ปราศจากความยากลำบากและสิ่งท้าทาย

จะมีความหมายอันใดในการมีชีวิต


 

ปีแห่งความใส่ใจ

ชายหนุ่มเลิกงานและกลับบ้านด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า

ลูกชายวัย 5 ขวบยืนรอถามที่ประตู “พ่อคับพ่อทำงานได้เงินชั่วโมงละเท่าไหร่”

พ่อโมโห “จะรู้ไปทำไม ไม่ใช่เรื่องของแก” สักพักคิดได้ “พ่อได้ชั่วโมงละ 20 บาท”

ลูก “โอ..” เสียงอ่อยสิ้นหวัง แต่ “พ่อคับ ผมอยากขอยืมเงิน 10 บาท”

พ่อโกรธ “นี่เป็นเหตุผลที่แกถาม เพื่อจะขอเงิน แล้วไปซื้อของเล่นโง่ ๆ ไปนอนได้แล้ว”

…ทุกเสียงเงียบลง.. สักพักพ่อคิดได้..บางทีลูกอาจจำเป็นต้องใช้เงิน 10 บาทจริง ๆ

พ่อ “พ่อมาคิดดู เมื่อกี้พ่ออาจพูดกับลูกแรงเกินไป เอ้านี่เงิน 10 บาทที่ลูกขอ”

เด็กลุกขึ้นนั่ง”ขอบคุณคับพ่อ” รับเงินแล้วล้วงลงหยิบเงินสะสมใต้หมอนมานับ

พ่อโกรธอีกหน “ก็มีเงินแล้วนี่ แล้วมาขออีกทำไม”

ลูก “เพราะผมมีไม่พอคับ แต่ตอนนี้ผมมีครบแล้ว

พ่อคับผมมีเงินครบ 20 บาทแล้ว ผมขอซื้อเวลาพ่อชั่วโมงนึง

….พรุ่งนี้พ่อกลับบ้านเร็ว ๆ นะคับ

ผมอยากกินข้าวเย็นกับพ่อ ผมจ่ายพ่อ 20 ล่วงหน้าเลยคับ”

Read More

Happy New Year 2014

สวัสดีปีใหม่ 2557
Happy New Year 2014

14Top

ส.ค.ส. 2557

 สดุดีปีใหม่

“เมื่อไม่นานมานี้เองครับ มีโอกาสขึ้นกทม. ไปธุระแถวหัวลำโพงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไป ขณะที่ประตูสถานีสุทธิสารเปิด มีหญิงคนหนึ่งสวมแว่น ใสหมวกแก๊ป ท่าทางคล่องแคล่ว เดินเข้ามายืนตรงหน้าผม ผมลุกให้เพราะติดนิสัยจากเด็กต่างจังหวัด ประกอบกับนั่งใกล้สุด หญิงคนนั้นนั่งลงแล้วถามว่า “ช่วยถือของให้มั้ยค่ะ” พอดีผมบ้าหอบฟางอยู่ กระเป๋า 2-3 ใบ เลยยื่นกระเป๋ากล้อง+เลนซ์ไปให้ แต่มีชายคนหนึ่งชิงไปถือก่อน ผมก็หันไปมอง เขาก็ยิ้มๆ ขำๆ ผมก็งงๆ เข้าใจว่าเป็นน้องชายหรืออะไรประมาณนั้น พอกลับหน้ากลับมาดูที่ผู้หญิง โอ!! เข่าอ่อนเลย เพราะเพ่งมองกี่ครั้งก็ใช่สมเด็จพระเทพ พระองค์กำลังเอานิ้วชี้มาจรดที่ปาก พร้อมทำเสียง “จุ๊ ๆ ทำเฉยๆ ไว้ อย่ากระโตกกระตาก” ผมก็เลยเข่าอ่อน หัวใจตกลงไปตาตุ่ม ดีที่พี่ผู้ชาย (เข้าใจว่าทหารรักษาพระองค์) สะกิด กับรั้งตัวไว้ทันก่อนผมจะลงไปกราบ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปร่วมกับพระองค์ ก็เข้าใจเอาเองว่า พระองค์ท่านคงอยากมีความส่วนพระองค์ ถ้าผมถ่ายคนนึงอีกทั้งขบวนต้องมาถ่ายด้วยแน่ (บันทึกโดย อาจารย์ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์…เรื่องเล่าจากพี่คนใต้ใจดี)


 

ปีแห่งโชคลาภ

โชคใด..จะดีไปกว่าเกิดปัญญาเข้าใจหัวใจ

จนใจเป็นสุขได้ในทุกสถานการณ์

ที่ไม่อาจมีการกระทบใดทำใจให้กระเทือนได้อีก

ลาภใด..จะยิ่งใหญ่ไปกว่าความรู้สึกพอ

อันคือความร่ำรวยแท้จริง ที่ความโลภใดมิอาจกดดัน

บ่อเกิดแห่งการแบ่งปัน…ที่ไม่มีวันหมดสิ้น


 

ปีแห่งแรงบันดาลใจ

ใยต้องรอจนมีแม็คบุ๊คโปรจึงเริ่มทำงาน

สุนทรภู่สร้างวรรณกรรมบนใบลาน

เนลสัน แมนเดล่าบริหารโดยไม่มีไอโฟน

วอร์เรน บัพเฟตต์ใช้เครื่องคิดเลขเก่า ๆ เขย่าเศรษฐกิจโลก

ไอสไตน์ใช้กระดานชนวนหาความจริงจากความฝัน

อุปกรณ์สำคัญที่อัจฉริยะใช้เปลี่ยนโลก

คือแรงบันดาลใจ ในสมองธรรมดา ๆ

อันคือที่มาของความมุ่งมั่น ไม่หวั่นไหว

คนทั่วไปแสวงทรัพย์สินและอำนาจ

คนฉลาดแสวงหาแรงบันดาลใจ


 

คิดบวก

“รถติดไฟแดง ไม่มีที่จอด พลาดลิฟท์เสี้ยวนาที

วันนี้คงไม่ใช่วันของเรา วันของคนอื่นบ้าง แบ่ง ๆ กันไป”

“เรื่องแค่นี้เขาคิดไม่ออก ….. จริง ๆ แล้ว ไม่มีใครโง่หรอก

เราฉลาดในเรื่องที่แตกต่างกัน”

“ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด อุปสรรคทั้งวัน ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลย

ฟ้าดินไม่ได้แกล้งหรอก มันเป็นอย่างนี้กับทุกคนในบางวันเสมอ”

“ทำไมทำอย่างนั้น คงมีบางมุมของเหตุผลที่เรามองไม่ชัดเท่าเขา

เช่น เราจะบีบแตรไล่ผู้ชายที่เดินซุ่มซ่ามยึกยักริมถนนนั้นไหม

หากรู้ว่าเขาใส่ขาเทียม หรือสมเพชหญิงแต่งตัวไร้รสนิยมคนนั้นไหม

หากรู้ว่านั่นคือชุดเดียวที่เธอมีในชีวิต”


 

ปีแห่งการค้นหาสิ่งดีงาม

ขอใจดูใจ ประเมินชีวิตอีกปีที่ผ่านมา

กี่คุณค่า กี่คุณงาม ที่ส่งใจให้รู้สึกดี

กี่เสียสละ กี่ความทุ่มเท ที่ก่อศรัทธาให้กับตน

เก็บเป็นบทเรียนให้ปัจจุบันและวันหน้า

“หน้าตาดี จะอยู่กับเรา 20 ปี

สมองดี จะอยู่กับเรา 40 ปี

ความดี จะอยู่กับโยมไปตลอดชีวิต…. เจริญพร”

(พระมหาสมปองฝากมา)


 

เปิดใจให้เบิกบาน

อาจมีสักหน ที่มีข้อโต้แย้งกันเกิดขึ้น

เหน็ดเหนื่อยและทุ่มเททำให้คนยอมรับความเห็นตน

ไม่ทำความเข้าใจในความเห็นที่แตกต่าง

ยกทุกข้ออ้างมาหักล้าง…อย่างฟังไม่ขึ้น

เหนื่อยเพียงใดกับการปกป้องความคิดของตน

หาเหตุผล ค้นโลกซีกเดียวมาสนับสนุน

โง่เพียงใด…ที่อยากให้ใครทั้งโลกมีความเห็นเหมือนตน

กับใครบางคน เราอาจทำได้ดีที่สุดแค่สงบและทบทวนตัวเรา

สายฝนแสนห่าก็หาเติมน้ำให้เต็มกะลาที่คว่ำอยู่ได้ไม่

จริงแท้แล้ว แค่ลดความสำคัญตน

ใจคนก็สว่างขึ้นโดยไม่ต้องใช้สมอง


 

ใส่ใจต่อกัน

มักมีความจริง สิงอยู่ในคำล้อเล่น

มักมีข้อสงสัย ในคำว่าไม่มีอะไร

รู้สึกน้อยใจ ซุกอยู่ในคำว่าไม่แคร์

จงได้ยินในสิ่งที่เขาไม่ได้พูด เห็นในสิ่งที่เขาไม่แสดง

ฟังความรู้สึกด้วยใจสัมผัสใจ ใยต้องใช้เหตุผล

กับคนรอบข้าง…สร้างความรู้สึกดีจากใจ ใช่แค่ถ้อยคำ

คนที่มีความสุขมักไม่ค่อยยุ่งเรื่องคนอื่น

แต่ฟังและได้ยินความรู้สึกของคนข้างเคียง

ที่ห้องทำงาน ต้นตอแห่งความรำคาญอาจคือเรา

เข้าใจเขา สยบใจเรา เพราะสุขในงานสำคัญกว่าเงินเดือน


 

ปีแห่งคุณภาพชีวิต

“ผมเก่ง…คุณรู้ไหม… คนนั้นก็ได้ดีเพราะผม

ถ้าไม่ได้ผมเราคงไม่มาไกลถึงเพียงนี้”

แม้แต่คนที่ชอบเราเขาก็ไม่อยากฟังมัน

คนที่เกลียดเรา… เขายิ่งไม่มีวันเชื่อ

และใคร ๆ ก็รู้ว่าสิ่งที่คุย.. มักเกินจริง

คุณภาพคน..รับรู้กันได้ด้วยใจ… ไม่ใช่คำพูด

คนฉลาดฟังความรู้สึกมากกว่าฟังคำพูด

ดังนั้น.. เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต

พูดน้อยลง.. ฟังมากขึ้น

คิดรอบคอบ…. ตรวจสอบตนเอง


 

คิดได้

ถ้าผมเป็นมหาเศรษฐี มีน้องสาวเป็นนายก

ถึงผมจะผิดพลาดในอดีต.. จนต้องระเหเร่ร่อนในต่างแดน

ผมจะกว้านซื้อโอกาสให้คนซื่อสัตย์มาบริหารประเทศ

ผมจะไม่ยอมให้โอกาสแก่คนคดโกง คนโกงจะสูญสิ้นแผ่นดินจะเป็นสุข

เงินทองเหลือเฟือผมจะนำไปสนับสนุนโครงการมากมายในพระราชดำริ

ผมจะขอใช้เงินอย่างเป็นสุข ด้วยการซื้อแสนโรงเรียนให้เด็กฉลาด

มอบหมื่นโรงพยาบาลให้ผู้คนแข็งแรง พลิกอิสานแล้งเป็นอิสานเขียว

โอกาสเช่นนี้มีไม่กี่คนบนโลก และโชคจะเป็นของคนคิดได้

เพราะตำนานจดจารึกเฉพาะคุณงาม มิใช่ความรวย

อยู่เพื่อตน อยู่แค่ตนสิ้นใจ อยู่เพื่อคนทั่วไป อยู่ชั่วฟ้าดิน

ผมอาจจบชีวิตอย่างสันโดษในแดนไกลที่ไม่มีใครจดจำ

แต่ความปิติและสุขใจ… ใคร ๆ ไม่จำเป็นต้องรับรู้ก็ได้

Read More
Kamjad0

บางข้อคิดจากจิตวิญญาณอาจารย์กำจัด

บางข้อคิดจากจิตวิญญาณอาจารย์กำจัด


ความดี ความงาม ความทรงจำ อาจารย์คือคุณครูของวงการที่ไม่เคยจางหายไปจากใจ สิ่งที่อาจารย์บุกเบิก สร้างรากฐาน ให้งอกงามเติบโตมาเป็นสูติ-นรีเวชในปัจจุบัน ยิ่งใหญ่เสมอมา วันนี้เป็นผลจากวันวาน จากก้าวแรกอันลำบากยากเย็นที่อาจารย์บุกบั่นฟันฝ่ามาอย่างยาวนาน กลายเป็นตำนานหมื่นลี้ที่เล่าขานไม่รู้จบของสูติฯเชียงใหม่ อาจารย์คือ ต้นแบบแห่งคุณครูที่เปี่ยมด้วยความกรุณา ปลูกฝัง ปลุกปั้นลูกศิษย์มามากมายกว่าจะเป็นภาควิชาให้ลูกหลานได้เป็นผู้มีโอกาสในการก้าวย่างที่สวยงามและสะดวกสบายในวันนี้

Kamjad0

ห้องเรียน 2 หรือห้องเรียนอ.กำจัด สังเกตไม่มีคำว่าร.ศ. นำหน้า และไม่มีสวัสดิโอต่อท้าย เป็นคำเรียกง่าย ๆ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวสูติฯมช. ที่นี่เป็นห้องประชุมเก่า ๆ ที่ปราศจากความอลังการใด ๆ ผมคิดว่านี่เป็นห้องที่ถ่ายทอดความรู้สึก นึก และคิดจากอาจารย์ได้เป็นอย่างดี นับกว่ายี่สิบปีแล้วตั้งแต่อาจารย์เป็นหัวหน้าภาควิชาฯ ที่อาจารย์รุ่นเด็กได้รับแรงบันดาลใจให้จัด morning conference อย่างเป็นทางการ ณ ห้องแห่งนี้ ในสมัยเริ่มต้นนั้นอาจารย์ยังมาเข้าร่วมประชุมในตอนเช้ามืดบางวัน วันที่อาจารย์ไม่ได้มา ก็คอยติดตามขอให้กระผมและทีมงานช่วยส่งรายชื่อผู้ป่วยน่าสนใจในคืนที่ผ่านมา ผมรู้ว่าเป็นเรื่องลำบากที่หัวหน้าภาคจะมาร่วมกิจกรรมกับลูกภาคในทุกเรื่อง แต่เราก็สามารถสัมผัสถึงการใส่ใจและส่งแรงใจมายังรุ่นลูกหลานได้เป็นอย่างดี ทุกวันนี้ morning conf ได้เป็นจุดแข็งจุดขายของภาควิชา ที่ผู้เรียนที่จบแล้วจากไปต่างก็ได้รับความรู้สึกว่านี่คือพื้นที่ก่อกำเนิดและบ่มเพาะจิตวิญญาณของหมอในการดูแลคนไข้ทั้งคน แหล่งจุดประกายไฟแห่งการค้นหา ทั้งความรู้และความเป็นหมอ แชร์ประสบการณ์ผ่านเคสของคืนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ควบคุมสติปัญญาของผู้ดูแลรักษาผู้ป่วย คอยกำกับให้การอยู่เวรเสมือนหนึ่งมีผู้เฝ้ามองอยู่อย่างห่วงใยและต่อเนื่อง นานเท่าใดกี่ร้อยกี่พันเคสแล้วที่บอกเล่าความถูกผิด young staff หลายท่านได้รับแรงใจอย่างดียิ่งจากอ.กำจัดในวันก่อนโน้น ใน morning ยุคเริ่มต้นอาจารย์พูดหลายครั้งว่าเวรย่อมระงับด้วยการอยู่เวร (อย่างดี)

วันแรกที่เราเริ่มมี morning conference เริ่มจัดที่ห้องเรียน 3 ที่จุคนได้เพียงราว 10 คน อาจารย์ถามผมว่ามีอุปสรรคอะไรหรือเปล่า ผมบอกว่าห้องมันแคบไปหน่อยครับ อาจารย์บอกว่า กิจกรรมยิ่งใหญ่เกิดได้แม้ในที่คับแคบ และดูเหมือนอาจารย์จะยินดีกับกิจกรรมนี้เป็นอย่างยิ่ง และถามถึงบ่อยครั้ง และจนวันนี้ก็ยังชวนให้ฉุกคิดว่า คุณธรรมและความรู้ไม่จำเป็นต้องมาจาก symposium ที่โรงแรม ความคิดดีๆ ไม่ต้องเกิดจากห้องสัมนาของรีสอร์ทหรู ๆ ความคิดอ่านดี ๆ เกิดขึ้นที่นี่มิใช่ congress ที่เมืองนอก จนหลายคนอาจเดินทางประชุมมากกว่าเข้าห้อง conference อย่างเต็มใจและศรัทธา เหมือนที่ใครบอกว่า เฮมิงเวย์เขียนหนังสือด้วยปากกาหมึกซึมเก่าๆมิใช่เม้าส์ไร้สาย สุนทรภู่พกแต่สมุดข่อยมิใช่ไอแพด วอร์เรน บัพเฟตต์ทำงานในห้องเล็กๆกับเครื่องคิดเลขธรรมดาโดยปราศจากแม็คบุ๊คโปร อุปกรณ์สำคัญที่สร้างฝันให้อัจฉริยะทั้งโลก คือ จิตใจที่มุ่งมั่นกับมันสมองธรรมดา ๆ ซึ่งก็เกินพอแล้วกับการประสบความสำเร็จในชีวิตแท้จริงแล้ว

Kamjad2s

อาจารย์บอกว่า ถ้าหมอทำคลอด private เกินสิบเคสต่อเดือนหมอจะไม่สามารถทำหน้าที่อาจารย์ที่ดีได้ ถ้าหมอจะทำคลอดก็ต้องทำที่นี่แหละ ต้องอยู่ในสายตาของนักศึกษาแพทย์ (คงจะหมายถึงการดูแลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ) อาจารย์หมอที่ไปทำ private ที่อื่น ก็เหมือนการปิดบังบทเรียนของนักศึกษาแพทย์และแพทย์ประจำบ้านไป หมอไม่มีทางที่จะเป็นอาจารย์แพทย์ที่ดีได้ “จุดเริ่มต้นของการทำ private practice ในเวลาราชการเป็นจุดเสื่อมของสถาบันการเรียนแพทย์ทุกแห่ง” นั่นก็เป็นอีกหนึ่งวาทะเตือนใจที่ผมจดจำ แท้จริงมีคนมากมายที่อยากได้โอกาสของการเป็นผู้ให้ หรือมีเลือดครูอย่างไม่รู้วันจาง (ผมตั้งข้อสังเกตว่า ปรมาจารย์อาวุโสที่เราคุ้นเคย อ.กำจัด อ.กอสิน อ.สุรีย์ อ.ศุภร ต่างไม่ยอมออกไปทำ private นอกภาควิชาในขณะเป็นอาจารย์ ราวกับเตือนใจหรือเป็นต้นแบบให้อาจารย์แพทย์รุ่นหลัง)

Kamjad3s

หมอลองดูพระราชดำรัสบทนี้สิ… นั่นเป็นครั้งหนึ่งที่ผมทราบถึงแก่นใจของผู้หยิบยื่นความคิดอ่านโดยไม่ต้องสอน หลายปีต่อมาผมได้มีโอกาสอ่านทบทวนถ้อยความนี้อีกมากครั้ง เพราะปรากฏอยู่ที่เว็บหน้าแรกของคณะแพทยศาสตร์เรานั่นเอง “อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีไม่ร่ำรวย แต่ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวยควรเป็นอาชีพอื่นที่ไม่ใช่แพทย์ อาชีพแพทย์ต้องยึดอุดมคติ คือเมตตา กรุณา” ทำให้ผมนึกถึงอาจารย์ในฐานะของครูแพทย์ผู้รู้จักพอ เพียงอาชีพแพทย์ก็ต้องรู้จักพอให้ได้ แล้วยิ่งมาเป็นครูแพทย์ที่ต้องมาเป็นต้นแบบให้อนุชนด้วยแล้วมิควรที่จะลืมลาภยศเหล่านั้นไปให้หมดเลยหรอกหรือ และครูแพทย์ทุกคนต้องร่ำรวย (หมายถึงพอแล้วโดยไม่มีเงินมากนักหรอก) ถึงไม่ทำ private practice เลย เราก็รวยกว่าคนส่วนใหญ่ (กว่า 80%) ของทั้งประเทศแล้ว ผมคิดว่าอาจารย์เตือนผมให้รู้จักพอเพียง ความมุ่งหวังแห่งการครอบครอง ความเห็นแก่ได้มันทำร้ายพื้นที่ชีวิตของครูลงอย่างน่าใจหาย เราจึงไม่มีใจและเวลาที่จะมีความสุขในการราวด์ การเรียน การสอน ในภาคส่วนของผู้ป่วยสามัญ

Kamjad4s

หลายครั้งที่ผมได้รับซองเอกสารที่มีเอกสารทางวิชาการบ้าง ข้อคิดเพื่อชีวิตที่ดี ๆ จากอาจารย์กำจัดอยู่เสมอ ๆ ผมสัมผัสถึงความกรุณาเช่นนี้เสมอมา อาจารย์ใส่ใจกับหัวใจคนรุ่นหลัง ให้ความสำคัญกับคุณภาพแห่งจิตวิญญาณและการงานต่อคนรุ่นใหม่ ผมรู้สึกได้มาเกือบสามสิบปีที่อาจารย์ได้สร้างพลังบันดาลใจอย่างเงียบ ๆ ผมนึกไม่ออกเลยสักครั้งว่าอาจารย์แสดงความก้าวร้าว หยามน้ำใจลูกศิษย์หรือทำร้ายน้ำใจเพื่อนแพทย์คนใด ความเป็นครูใจดีที่เรียบง่ายและเพียงพอ ถนอมน้ำใจกับคนที่สร้างความกดดันได้อย่างงดงาม ยังคงเป็นภาพชัดเจนพิมพ์ใจที่ไม่ต้องบันทึกด้วยกล้อง high definition รุ่นใด เพราะธรรมชาติของมนุษย์นั้นย่อมจดจำคนมีค่ามากกว่าคนมีเกียรติ แค่นึกก็อาจทำให้หัวใจของใครหลายคนสงบ สยบทุกความทะเยอทะยานแห่งอัตตาหลงตนของคนลุ่มหลงลงไปได้บ้างกระมัง

“การที่เขามายอมนอนทอดกายให้หมอตรวจภายในได้นั้น … แม้จะเจ็บปวดสักแค่ไหน เขาคิดแล้วคิดอีก มากว่าค่อนคืนว่าจะมาให้หมอตรวจดีหรือไม่” นั่นคือหนึ่งประโยคที่ผมได้ยินเมื่อครั้งที่อาจารย์ทำ grand round เรื่องการตรวจ sensitive area เมื่อสามสิบปีที่แล้ว ผมคิดว่าถ้อยคำ “ทอดกาย” ต้องถ่ายทอดต่อไปยังรุ่นน้องรุ่นลูก เพื่อสะท้อนให้ตระหนักว่าการตรวจทางนรีเวชนั้นจำเป็นต้องตรวจหัวใจที่ให้เกียรติ (with respect) เยี่ยงพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ในที่นี้หมายถึงสมองผ่องใสและหัวใจผ่องแผ้ว เปี่ยมปรารถนาดี การตรวจครั้งนี้เขามาด้วยความไว้วางใจในคุณหมอ แบบไม่มีที่ไปที่ดีกว่านี้

Kamjad5s

ในซองจดหมายเก่าติดตรา WHO ซองหนึ่งที่อาจารย์ให้คุณเจริญเอามาวางไว้บนโต๊ะผม นอกจากเอกสารวิชาการแล้ว ยังมีแผ่นกระดาษโรเนียว มีลายมืออาจารย์เขียนไว้ที่หัวกระดาษว่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตจะมีสุขภาพจิตดี มีความเป็นผู้ใหญ่ ตามด้วยตัวพิมพ์ดีดโบราณ (เช่นเดียวกับข้อคิดที่ติดอยู่หน้าตู้หนังสือของอาจารย์พรรณี) ดังต่อไปนี้

ผู้มีสุขภาพจิตดี : 1) รู้จักและพอใจในสภาพของตนเอง, 2) มีกิจกรรมและมีเพื่อน, 3) ผ่อนปรนและปรับตัวได้ภายใต้ความกดดัน, 4) มองผู้อื่นด้วยความเห็นใจ และในฐานะเท่าเทียมกัน, 5) พอใจในงาน และเห็นว่ามีคุณค่า

ความเป็นผู้ใหญ่ : 1) เข้าใจโลก มองการณ์ไกล, 2) ให้มากกว่ารับ, 3) ไว้ใจได้ มีหลักการ, 4) ผ่อนปรนให้อภัย, 5) รับฟัง ตั้งใจช่วย, 6) อดทน อดกลั้น, 7) มีสติเผชิญหน้ากับเหตุการณ์

สังเกตว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตของคนเรา อาจารย์มิได้เอ่ยถึงคำว่า ตำแหน่งวิชาการ จำนวนพับบลิเคชั่น ตำแหน่งบริหารใด ๆ หรือทรัพย์สินสักแค่ไหน ขับรถรุ่นใด

อาจารย์เคยพูดในที่ประชุมอาจารย์เมื่อรับเป็นหัวหน้าภาคสมัยที่ 2 ในปี 2532 ว่าจำเป็นที่อาจารย์ต้องรู้ว่าการทำคนดีให้เก่ง ง่ายกว่าการทำคนเก่งให้ดี และเราก็ต้องตระหนักว่า แม้เราต้องการคนเก่ง แต่คนที่คิดว่าตนเองเก่งมักเป็นต้นเหตุแห่งความล่มสลายขององค์กรอีกหนึ่งจุดหักเหสำคัญของภาควิชาที่จะนำไปสู่ความเสื่อม คือการทำ private practice มากกว่าครุ่นคิดวัน ๆ ว่าจะค้นหาองค์ความรู้ ถ่ายทอดความรู้ ใส่ใจเชิงรุก คอย monitor ลูกศิษย์อย่างไร ภาระกิจสำคัญของครูอาจารย์คือการปลุกใจให้เกิดใฝ่ดีและใฝ่รู้ ไม่ใช่ใฝ่รวย (สังเกตต้องใฝ่ดีก่อน) เห็นความสำคัญของชีวิตที่มีค่ามากกว่าชีวิตที่มีเงิน อาจารย์ย้ำเรื่องนี้หลายครั้ง ดังตัวอย่างบางตอนจากบทความที่อาจารย์เขียนไว้ในแพทยสภาสาร เรื่องภูมิต้านทานโรคจริยธรรมเสื่อม

• “….. ในชั้นต้นก็เป็นเรื่องของการสงเคราะห์ช่วยเหลือเกื้อกูลกันฉันท์ญาติสนิทมิตรสหาย ผู้รับบริการส่วนใหญ่ก็เป็นผู้รู้จักคุ้นเคยกับแพทย์ หรือเพื่อนร่วมงานของแพทย์ เมื่อได้รับความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้วก็มักจะมีของสมนาคุณให้ตามธรรมเนียมไทยที่ดี มากบ้างน้อยบ้างตามศรัทธาและฐานะ แต่เมื่อวิถีชีวิตในสังคมรอบข้างเปลี่ยนไป ความหลงไหลในวัตถุมีมากขึ้น การช่วยคลอดก็กลายเป็นธุรกิจ ของสมนาคุณก็กลายเป็นเงินสด ซึ่งอาจจะได้มาทั้งรูปของการที่มิได้กำหนดหรือเรียกร้อง ไปจนถึงขั้นกำหนดราคาก็อาจจะเกิดขึ้นได้”

• “ผู้มาคลอดในระยะแรกที่ไม่ได้เป็นลักษณะธุรกิจ อาจารย์อาจจะให้ศิษย์มีโอกาสฝึกปฏิบัติ จะช่วยคลอดโดยวิธีต่าง ๆ รวมทั้งการผ่าตัดโดยอาจารย์เป็นผู้สอนให้ แต่เมื่อกลายเป็นธุรกิจจำบังเช่นนี้ อาจารย์ก็ไม่กล้าเสี่ยงชื่อเสียงทางธุรกิจของตนและพยายามที่จะเอาใจผู้คลอดด้วยวิถีทางต่าง ๆ ไม่ค่อยกล้าคุมให้นักศึกษาหรือแพทย์ประจำบ้านเป็นผู้ทำเหมือนแต่ก่อน การเรียนการสอนส่วนนี้ก็ขาดหายไป”

• “…… แล้วเรียกร้องหรือรับเงินเพื่อประโยชน์ส่วนตนก็ย่อมจะถือได้ว่าเป็นความผิด แต่พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการเรียกร้องหรือรับเงินทองกันในโรงพยาบาลและการทำคลอดผู้ป่วยในลักษณะนี้อาจจะอ้างได้ว่ากระทำไปโดยความเมตตา สนิทเสน่หาเป็นส่วนบุคคล ซึ่งโดยข้อเท็จจริง ผู้มาคลอดในลักษณะนี้เป็นญาติของแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ฯลฯ ก็มีอยู่ไม่น้อย ดังนั้นการแก้ไขจึงต้องอาศัยสำนึกของอาจารย์ที่ทำการเพื่อธุรกิจดังกล่าวว่าจะพิจารณาตนเองอย่างไรในฐานะที่เป็นอาจารย์ และเป็นแพทย์ไทยคนหนึ่งที่ควรจะมีความรู้สึกสำนึกในการร่วมกันรักษามาตรฐานทางจริยธรรมของแพทย์ไทยไว้ให้มั่นคงและยืนนาน”

• “ผู้เขียนในฐานะที่ปัจจุบันเป็นหัวหน้าภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาคนหนึ่ง พยายามสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่นักศึกษาแพทย์ ไม่ให้ติดเชื้อพฤติกรรมอันไม่พึงปรารถนา ด้วยแนวคิดง่าย ๆ ว่า 1) ให้รู้จัก “อด” คืออดกลั้นต่อความอยากทางวัตถุ หัดดำรงชีวิตอย่างประหยัด เรียบง่าย ใช้ชีวิตประจำวันอย่างอยู่พอดี กินพอดี ไม่ใช่อยู่ดีกินดี 2) ให้รู้จัก “อาย” คืออายที่จะทำความชั่ว ความทุจริตด้วยประการทั้งปวง”

ด้วยใจและใจ..ในนามของอนุชนชาวสูติศาสตร์ม.ช. น้อมกราบอธิษฐานจิต อุทิศส่วนกุศลแด่ดวงวิญญาณของอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ไปสู่สุคติในสัมปรายาภพ และความทรงจำที่ดีงามจะเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกหลานดีงามตามที่ท่านอาจารย์มุ่งหวัง

บรรณานุกรม

  1. กำจัด สวัสดิโอ : ประวัติและการตรวจการตั้งครรภ์และโรคเฉพาะสตรี จัดพิมพ์โดยโครงการส่งเสริมการศึกษาแพทย์ สำหรับชาวชนบท คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ.2524)
  2. กำจัด สวัสดิโอ : “คู่มือบัณฑิต” วิถีสู่ความสำเร็จในการทำงาน จัดพิมพ์โดยโครงการตำรามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (พ.ศ. 2526)
  3. กำจัด สวัสดิโอ : “วิชาชีพ วิชาชีวิต” คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ พ.ศ. 2521 (พ.ศ.2523)
  4. กำจัด สวัสดิโอ : “ภูมิต้านทานโรคจริยธรรมเสื่อม” แพทยสภาสาร ปีที่ 17 ฉบับที่ 7 กรกฎาคม 2531 หน้า 419-422.

 ธีระ ทองสง
ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา

Read More

Intern ผ่านสูติ ควรมีบทบาทไงดี?

Intern ผ่านสูติ ควรมีบทบาทไงดี?

วันปฐมนิเทศน์

เวลา 9.00 น. ที่ห้องประชุมภาควิชาสูติฯ  (กรุณาตรงเวลาด้วย)  ทุกคนต้องมาเข้าปฐมนิเทศ  มิฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติงานในภาควิชาฯ  ถือเป็นเจตคติที่ดีในการเริ่มต้นการทำงาน

หน้าที่และความรับผิดชอบของแพทย์ใช้ทุนปีที่ 1

  1. ตรวจรักษา และช่วยเหลืองานแพทย์ประจำบ้าน  รวมทั้งอาจารย์  ในการดูแลผู้ป่วยสูติกรรม  และนรีเวช ในหอผู้ป่วย และห้องตรวจผู้ป่วยนอกต่าง ๆ ทุกวัน  ตามที่ได้กำหนดไว้
  2. จดบันทึก Admission note, Progress note
  3. ช่วยดูแลนักศึกษาแพทย์  โดยเฉพาะ Extern
  4. ควบคุมการทำคลอดของนักศึกษาแพทย์ปีที่ 5 และ Extern
  5. เขียนและส่งใบปรึกษาต่างภาควิชา  โดยเหมาะสม
  6. เข้าช่วยการผ่าตัดตามที่ได้รับมอบหมาย
  7. อยู่เวรนอกเวลาราชการตามที่ได้รับมอบหมาย  โดยมีการรับเวรวันธรรมดา เวลา 16:00 น. และวันหยุดราชการ  เวลา  8:00 น.
  8. เป็น first call ร่วมกับ Extern เวลารับผู้ป่วยนอกเวลาโดยปรึกษาแพทย์ประจำบ้านที่อาวุโสกว่าเสมอ
  9. ช่วยแพทย์ประจำบ้านสรุปการจำหน่ายผู้ป่วย
  10. การลาป่วย  ลากิจ  หรือลาพักร้อน  ต้องแจ้งให้หัวหน้าแพทย์ประจำบ้าน และอาจารย์อภิชาติ ทราบก่อนทุกครั้ง  (ยกเว้น ลาป่วย หรือ ลากิจที่จำเป็นจริง ๆตามระเบียบการลาที่ถูกต้อง
  11. หน้าที่อื่นๆ ให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางโรงพยาบาล หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ผู้ดูแล

การปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วย

  1. หอผู้ป่วยนรีเวช 2,3,4  เริ่มปฏิบัติงาน เวลา  7:15 น.  ส่วนหอผู้ป่วยสูติกรรม  เริ่มเวลา 8:00 น.  โดย Round ward พร้อมอาจารย์  แพทย์ประจำบ้าน และนักศึกษาแพทย์ และจะมีการ Round ward  ตอนเย็นอีกครั้ง  พร้อมแพทย์ประจำบ้าน  เวลาประมาณ 15:30 น.
  2. ช่วย key Lab, order ยา และติดตามผล Lab
  3. ดูแลรับผิดชอบผู้ป่วยในหอผู้ป่วยที่หมุนเวียนไป  ดังนี้  :-
    • การรับผู้ป่วย Admit ใหม่
    • การบันทึก Admission note, Progress note, Discharge note
    • การเขียน และส่งใบ set ผ่าตัด
    • ไม่ควรออกจาก  ward ถ้ายังปฏิบัติงานไม่เสร็จ หรือมีผู้ป่วยหนัก และเมื่อจะออกไปไหน ต้อง      แจ้งให้พยาบาลทราบ พร้อมเบอร์โทรที่ติดตามได้
    • การตรวจภายในผู้ป่วยที่ Admit ถ้าไม่จำเป็นให้รอตรวจพร้อมแพทย์ประจำบ้าน และอาจารย์
    • ถ้าอยู่ห้องคลอดต้อง Attend คลอดตลอด (ถ้ามีผู้ป่วย) และช่วยดูแล นศพ.ปี 5 ที่ทำคลอดด้วย
  4. ห้องผ่าตัดเริ่มเวลา 8:00 น.  ( ยกเว้น  บางวันเริ่มเวลา  9:00 น.) ให้เข้าช่วยผ่าตัดตามที่ได้รับมอบหมายจากแพทย์ประจำบ้าน
  5. การย้ายผู้ป่วยเข้า ICU ต้องปรึกษาแพทย์ประจำบ้าน
  6. การบันทึก  :-
    • Admission note   เขียนประวัติ  การตรวจร่างกายที่สำคัญ  และการวางแผนการรักษา
    • Progress note    ควรบันทึกทุกวัน
    • Discharge note ให้สรุปการวินิจฉัย  การรักษาที่ได้ทำไป ผลการ investigate ที่สำคัญ plan ในการรักษา  ยาที่ให้ไป  ผลการผ่าตัด  ผลพยาธิวิทยา  พร้อมหมายเลข  สไลด์ และข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ ลงใน Discharge note โดยควรสรุปให้เสร็จภายใน เวลา  48  ชม.
    • OPD card  บันทึกข้อมูล  ประวัติ  การตรวจภายใน  การส่ง  Investigate และผลที่ได้  การรักษา  และต้องปรึกษาแพทย์ประจำบ้านทุกครั้งเมื่อไม่แน่ใจ  หรือมีปัญหา
    • สมุด ANC ต้องบันทึกข้อมูลให้ครบถ้วนตามแบบฟอร์ม
  7. การตามผล Lab
    • ให้นักศึกษาแพทย์  แพทย์ใช้ทุน  ช่วยตามผล Lab มาบันทึกไว้ใน Chart กรณีที่เป็น Lab ที่สำคัญเร่งด่วนให้แพทย์ใช้ทุนเป็นผู้ตามผล
    • ผลการเพราะเชื้อในกระแสเลือด  ถ้า  positive  ทางห้องปฏิบัติการจะโทรแจ้งมาที่ ward
    • กรณีนัด Ultrasound, CT scan, BE enema, UGI series หรือ Investigation พิเศษต่าง ๆ ให้แพทย์ใช้ทุนเป็นผู้ไปนัดกับรังสีแพทย์โดยตรง
  8. ใบรับรองแพทย์  ใบมรณบัตร  กรณีไม่ที่ซับซ้อนให้ช่วยออกด้วย
  9. การปรึกษา
    • ให้เขียนใบปรึกษา โดยให้อาจารย์ประจำ ward เป็นผู้ตรวจสอบและเซ็นชื่อ  แล้วส่งไปยังภาควิชานั้น ๆ โดยตรง
    • กรณีนอกเวลาราชการ  ให้หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านที่อยู่เวรวันนั้นเป็นผู้เซ็น
    • กรณีปรึกษาภายในภาควิชาฯ ให้ Notify โดยตรงกับหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านที่รับผิดชอบ ward นั้น ๆ

 การปฏิบัติงานที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก 3, 4, 5

  1. ออกตรวจภาคเช้า  เวลา  9:00 – 12:00 น.  ภาคบ่ายเวลา  13:00 – 15:00 น.
  2. ถ้ามีปัญหาให้ปรึกษาแพทย์ประจำบ้าน  หรืออาจารย์ที่ออกตรวจในวันนั้น

การปฏิบัติงานที่หอผู้ป่วยนรีเวชกรรม 3

  1. Round ward วันธรรมดา
    • ช่วงเช้าเวลา  7.30 น.
    • ช่วงเย็นเวลาประมาณ 15.30 น.  (อาจช้ากว่านี้ เพราะต้องรอจนเสร็จจากการผ่าตัดก่อน)
  2. เตรียม  Chart  ผู้ป่วย  และตามผล Lab  ให้เรียบร้อยก่อน Round ward
  3. การรับผู้ป่วยใหม่เพื่อเตรียมผ่าตัดทั้งหมด  (ยกเว้น case radical hysterectomy เป็นต้อง ward Onco)  ดังนี้  :-
    • ซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วย  แล้วเขียนในใบรับใหม่สีเหลือง ประกอบด้วย :- ซักประวัติ, การตรวจร่างกาย, การตรวจภายในจาก OPD (ไม่อนุญาตให้ Intern ตรวจภายในผู้ป่วยเอง)  และผล Lab Pre op ให้ครบถ้วน
    • ตรวจสอบผล Lap Pre op ประกอบด้วย CBC, UA, Electrolyte, BUN, Cr, LFT, FBS, Lipid profile, CXR, EKG, Tumor marker (Tumor marker เฉพาะ case Ovarian tumor) ให้ครบถ้วน
    • ถ้าผล Lab ผิดปกติ  ให้พิจารณา Repeat Lab, ให้การรักษาเบื้องต้น และเขียนใบ Consult ต่างแผนกไว้รอส่งหลังจาก Resident รับทราบ case แล้ว  (ยกเว้น case m Consult มาแล้วจาก OPD)
    • ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หรือภาวะที่ต้องการดูแลร่วมกับแผนกอื่น ให้เขียนใบ Consult  ต่างแผนกไว้รอส่งหลังจาก Resident รับทราบ case แล้ว  (ยกเว้น case ที่ Consult มาแล้วจาก OPD)
    • Check list ในชุดเตรียมผู้ป่วยผ่าตัดทางหน้าท้อง หรือทางช่องคลอด
    • เตรียม G/M case Benign เตรียม PRC 2 unit, Case Malignancy เตรียม PRC 4 unit
    • เขียนใบส่งตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิประกอบด้วยประวัติ, การตรวจร่างกาย, การตรวจภายใน และ Tumor marker โดย Case Ovarian tumor ใช้ใบเฉพาะ (ใส่ Copy ด้วย) ส่วน Case Benign และ CA อื่น ๆ ใช้ใบส่งตรวจชิ้นเนื้อธรรมดา (Case CA เขียนหัวกระดาษว่า  พยาธินรีเวช ขนาดใหญ่ให้เห็น ชัดเจน)
    • ผู้ป่วย Ovarian Tumor
    • เพิ่ม Copy ใบเหลือง 1 ใบ  เพื่อนำไปแจ้งการส่ง Frozen section กับ อ.สุรพันธ์ ที่ภาควิชาพยาธิ  ก่อนการผ่าตัด 1 วัน
    • Case ที่มีก้อนขนาดใหญ่ หรือ PV จาก OPD คาดว่าผ่าตัดแล้วจะติดมาก  เพิ่มใบเตรียม Bowel 1 หรือ 3 วัน  แล้วแต่ Resident พิจารณา
    • เตรียมใบ Cytology เพื่อส่งตรวจ As cites / Peritoneal washing
  4.  ผู้ป่วยที่ต้องการไป Ward พิเศษ  เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนก่อนให้ผู้ป่วยย้าย และแจ้งให้ Resident ทราบทุกครั้ง
  5. ตามใบรายงานผลชิ้นเนื้อทางพยาธิ (ใบจริงที่มีลายเซ็นอาจารย์) ของ case malignancy จากห้องรายงานผลชิ้นเนื้อ  ภาควิชาพยาธิ หลังการผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์
  6. กรุณาอยู่ประจำที่ “Ward” เพื่อเตรียมรับ case ใหม่  และทำ Ward work  ยกเว้นเวลาพักเที่ยงหรือมีธุระจำเป็น ให้แจ้งพยาบาล Ward และฝากเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
  7. หลีกเสี่ยงการลา  ยกเว้น มีเหตุจำเป็นเท่านั้น   การลากิจ  ควรแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์  การลาป่วย  ควรโทรศัพท์แจ้ง Resident 3 ทันทีที่ทำได้  การลาทุกกรณีจะต้องส่งใบลาที่ภาควิชาฯ
  8. มีข้อสงสัยในการทำงานกรุณาสอบถามจาก Resident

การปฏิบัติงานในห้องคลอด 1, 2

  1. รับผู้ป่วยใหม่ทุกราย
  2. ทำคลอดในกรณีที่ได้รับมอบหมาย
  3. จดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ของผู้ป่วยอย่างละเอียด
  4. Attend  คลอดตามที่ได้รับมอบหมาย

การปฏิบัติงานในห้องผ่าตัด

  1. ผู้ป่วยทำหมันเปียก  ให้ทำเองภายใต้การดูแลของแพทย์ประจำบ้าน  โดยให้เริ่มทำหลังจากที่ round ward สูติกรรม และห้องคลอดเสร็จแล้ว
  2. เข้าช่วยผ่าตัดตามที่ได้รับมอบหมาย

การอยู่เวรนอกเวลาราชการ

  1. ให้อยู่เวรตามตารางเวรที่กำหนดไว้ในแต่ละเดือน
  2. ต้องนอนเวรบน Ward ตามห้องพักที่ได้จัดไว้ให้
  3. เริ่มรับเวรวันธรรมดา  เวลา 16:00 น.  และวันหยุดราชการ เวลา 8:00 น. เริ่มที่ห้องคลอด 2
  4. เป็น First call ร่วมกับ Extern
  5. ช่วยดูแล นศพ.ปีที่ 5  ทำคลอดร่วมกับ  Extern  (ห้ามปล่อยให้ นศพ.ทำคลอดเอง)
  6. ถ้าจะต้องออกไปทำธุระ  ต้องแจ้งเบอร์โทรให้ติดต่อได้ไว้กับพยาบาลทุกครั้งเสมอ
  7. ไม่ควรอยู่เวรนอกเวลาราชการติดต่อกัน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงได้

ระเบียนการลา

  1. แพทย์ใช้ทุนปีที่ 1  มีสิทธิลาได้ไม่เกินปีละ 20 วัน  และไม่เกินร้อยละ 10 ของเวลาที่ผ่านภาควิชาฯ  โดยการลาในแต่ละครั้ง ต้องไม่ทำให้เกิดผลเสียต่องานราชการ
  2. การลาทุกครั้งต้องขอใบลาจาก สำนักงานผู้อำนวยการ  เพื่อตรวจสอบวันลา และขอความเห็นชอบจาก หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านในแต่ละจุด  หัวหน้าแพทย์ประจำบ้านทั้งหมด  และอาจารย์อภิชาติก่อน  แล้วภาควิชาฯ จะส่งใบลาไปยังสำนักงานผู้อำนวยการเอง  และควรจะส่งก่อนวันที่จะลา   ยกเว้น  การลาป่วย ลากิจ  ที่สำคัญจริง ๆ หรือไม่ทราบล่วงหน้า
  3. ในการลาแต่ละครั้ง  ต้องมอบหมายงานของตนเองให้มีผู้รับผิดชอบแทนทุกจุด รวมทั้งการอยู่เวร,  การตรวจ OPD, เวรนอกเวลาราชการ  และแจ้งต่อแพทย์ประจำบ้าน  หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทราบด้วยทุกครั้ง   ต้องมีลายเซ็นชื่อของผู้รับผิดชอบแทนในใบลาทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ได้ลา

การประเมินผล

มีการประเมินผลในด้านความรู้ และเจตคติ ความสามารถ  ความรับผิดชอบ  ความประพฤติ  บุคลิกภาพ  มนุษยสัมพันธ์   โดยจะมีผู้ประเมินดังต่อไปนี้  :-

  • อาจารย์ในภาควิชาฯ
  • แพทย์ประจำบ้าน
  • ถ้าแพทย์ใช้ทุนท่านใดที่มีคะแนนประเมินผลออกมาต่ำกว่าเกณฑ์  ภาควิชาสูติศาสตร์ จะพิจารณาต่อไปว่าจะให้ผ่านหรือไม่
  • ถ้า ตก เจตคติถือว่าไม่ผ่านเลย  (ไม่มีการซ่อม)

Activity ด้านวิชาการ

Intern  ควรเข้าร่วม Activity  ของภาควิชาฯ ทุกอย่าง  ดังต่อไปนี้  :-

  1. Morning conference ทุกวันราชการ  เวลา 07:00 น.
    • 07:00-07:15 น.  การนำเสนอบทความ  สไลด์ ultrasound หรือ VDO ที่น่าสนใจสั้น ๆ
    • 07:15-08:00 น.  นำเสนอผู้ป่วยที่รับใหม่ในคืนนั้น  โดยแพทย์ประจำบ้านปีที่ 1
    • ให้มีอาจารย์เข้าร่วม Discuss เรื่องการ Management
  2. Interesting  case conference (ICC) ทุกวันจันทร์  เวลา 13:00-14:30 น. นำเสนอ case ที่น่าสนใจ  โดยแพทย์ประจำบ้านปีที่ 1
  3. Journal club  ทุกวันอังคารและวันพฤหัส  เวลา 15:00-16:00 น. Intern นำเสนอ Journal ที่น่าสนใจ ซึ่งมีแพทย์ประจำบ้านช่วยเหลือให้ โดยมีอาจารย์เป็นที่ปรึกษา  แต่บางครั้งอาจจะเป็น Topic ที่น่าสนใจ ซึ่งทำโดยแพทย์ประจำบ้าน
  4. Specialty conference  ทุกวันศุกร์  เวลา  13:00-14:00 น. เป็น Activity ของ Specialty :  Infertile, Onco, Perinato, Family planning ให้สลับหมุนเวียนกันทำ
Read More

เรียนจบ resident สูติฯ แล้วไง

เรียนจบแล้วควร เก่ง ดี มีสุข

เมื่อแพทย์ประจำบ้านจบการฝึกอบรมแล้ว  ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  1. สามารถทำการตรวจวินิจฉัย  บำบัดรักษา และป้องกันโรค หรือภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ทางสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
  2. สามารถบำบัดรักษาผู้ป่วยอุปัทวะเหตุ และผู้ป่วยฉุกเฉินทางสูตินรีเวชกรรมได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพทันท่วงที
  3. สามารถทำสูติศาสตร์หัตถการ และผ่าตัดทางนรีเวชกรรม ตามหลักเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
  4. สามารถป้องกันและบำบัดรักษาภาวะผิดปกติของทารกแรกคลอดในห้องคลอดและในห้องดูแลทารกแรกคลอด  ได้อย่างถูกต้องจนกว่ากุมารแพทย์มารับหน้าที่ดูแลต่อไป
  5.  รู้ถึงโรคหรือภาวะผิดปกติในผู้ป่วยสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ที่สมควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่น และสามารถให้คำปรึกษาโรคหรือภาวะผิดปกติทางสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาแก่แพทย์สาขาอื่นได้อย่างถูกต้อง
  6. สามารถเป็นผู้นำหรือร่วมกิจกรรมในการปฏิบัติงานในชุมชน และในการให้บริการทางสูติ-นรีเวชกรรมได้เหมาะสม ทั้งด้านป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพบำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพ  รวมทั้งให้คำแนะนำและให้บริการด้านวางแผนครอบครัว ตลอดจนสามารถตรวจค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรกของอวัยวะสืบพันธุ์ได้อย่างถูกต้องให้สอดคล้องกับนโยบายสาธารณสุขแห่งชาติ
  7.  ติดตามความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ทันสมัยเสมอ และสามารถทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยด้วยตนเองได้ในภายหน้า
  8. สามารถถ่ายทอดความรู้ทั้งทางภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติต่อแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้อง
  9. เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มโนธรรม เจตคติต่อความเป็นแพทย์ และมนุษยสัมพันธ์อันดีต่อผู้ป่วย  ผู้เกี่ยวข้อง และผู้ร่วมงาน  ตลอดจนสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพชีวิตและสังคมได้อย่างเหมาะสม
  10. สามารถอธิบายหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรมรวมทั้งหลักสิทธิของผู้ป่วยได้
Read More

Resident ทำหัตการอะไรเป็นบ้าง

รายการการผ่าตัดและการทำสูติศาสตร์หัตถการของแพทย์ประจำบ้าน

 แพทย์ประจำบ้านปีที่ 1

1.  สูติกรรม

            –  ทำคลอดปกติทั้งครรภ์แรกและครรภ์หลัง  รวมทั้งการคลอดรกอย่างถูกวิธี

–  เย็บซ่อมแซมฝีเย็บ (perineorrhaphy) ทั้งแบบ median และ mediolateral อย่างถูกต้องตามลำดับชั้นทางกายวิภาค

–  เย็บซ่อมแซมฝีเย็บที่ฉีกขาดถึงทวารหนัก และ anus ได้อย่างถูกต้องตามลำดับชั้น ทางกายวิภาค

–  ทำ pudendal block

–  เย็บซ่อมแผลฝีเย็บแยก (disrupted episiotomy wound)

–  ตรวจหาและเย็บซ่อมการฉีกขาดของปากมดลูกและผนังช่องคลอด

–  ดูแลการชักนำการคลอด (labor induction) รวมทั้งการเจาะถุงน้ำ (artificial rupture of the membranes)

–  ทำการกดบีบมดลูกด้วย 2 มือ (bimanual uterine compression)

–  ทำหมันหญิงหลังคลอด (abdominal tubal resection, ATR)

-* ทำการล้วงรกด้วยมือ (manual removal of placenta)

-* ช่วยคลอดศีรษะทารกด้วยคีมดึงชนิด low หรือ outlet forceps extraction

-* ทำคลอดทารกด้วยเครื่องดูดสุญญากาศ (vacuum extraction delivery)

-* ทำคลอดทารกท่าก้นแบบ breech assisting ในครรภ์หลัง

-* หลังจากช่วยการผ่าท้องทำคลอด (cesarean section) อย่างน้อย 20 ราย และแพทย์อาวุโสประเมินแล้วว่าสามารถทำผ่าตัดดังกล่าวได้ จะมีโอกาสทำ primary cesarean section ในทารกท่าปกติ

*  =   มีแพทย์อาวุโสควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

2.  นรีเวชกรรม

–   ตรวจภายในผู้ป่วยโรคนรีเวชทั่ว ๆ ไป

–   ทำ Papanicolaou smear, Wet smear, Grams stain, Whiff test

–   ทำ vaginal packing เพื่อห้ามเลือดที่ออกจากมะเร็งปากมดลูก

–   ทำ cervical punch biopsy

–   ทำการจี้ด้วยสารเคมี เช่น podophyllin และ silver nitrate

–   ทำ incision and drain หรือ open and drain ในรายที่เป็น abscess หรือ hematoma

–   ทำ polypectomy

–   ทำ paracervical block

–   ทำ dilatation and curettage (D & C) ในรายแท้งไม่ครบ ที่ไม่ติดเชื้อ หรือในราย เพื่อการวินิจฉัยสตรีที่มีเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก

–   ทำ fractional curettage

–   ใส่ห่วงอนามัย (IUD) และยาฝังคุมกำเนิด (norplant)

–   ทำ cruciate incision หรือ hymenectomy

-*  ทำ culdocentesis

-*  ทำผ่าตัด salpingectomy และ salpingo-oophorectomy

-*  ทำผ่าตัด ovarian cystectomy

-*  หลังจากช่วยผ่าตัด total abdominal hysterectomy (TAH) อย่างน้อย 20 ราย และแพทย์อาวุโสประเมินแล้วว่าสามารถทำผ่าตัดดังกล่าวได้  จะมีโอกาสได้

ทำ TAH ที่ไม่ซับซ้อน 1 ข้าง

*  =  มีแพทย์อาวุโสควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

แพทย์ประจำบ้านปีที่ 2

1.   สูติกรรม

–   ทำคลอดทารกท่าหน้า (face presentation)

–   ทำคลอดทารกท่าก้นแบบ breech assisting

–   ดูแลและทำคลอดครรภ์แฝดตัวแรก

-*  ทำคลอดทารกด้วยการหมุนและดึงด้วยคีม (mid forceps extraction)

-*  ทำ prinary cesarean section สำหรับทารกท่าผิดปกติ เช่น ทารกท่าก้น ท่าขวาง

ท่าแหงนหน้า OPP ท่าหน้า หรือในรายที่มี placenta previa

-*  ทำ repeat cesarean section

-*  ทำ classical cesarean section

*  =  มีแพทย์อาวุโสควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

 2.  นรีเวชกรรม

–   ทำ dilatation and curettage (D & C) ในราย septic abortion, missed abortion และ therapeutic abortion

–   ทำ suction curettage ในรายครรภ์ไข่ปลาอุก

–   เย็บซ่อมแซมการฉีกขาดของ posterior fornix

-*  ทำ suprapubic tubal resection (STR)

-*  ทำ laparoscopic examination

-*  ทำ laparoscopic tubal resection (LTR)

–   ทำ anterior colporrhaphy and posterior colpoperineorrhaphy (AP repair)

–   เย็บ Kelly stitch or plication

–   ทำผ่าตัด total abdominal hysterectomy (TAH)

–   หลังจากช่วย vaginal hysterectomy แล้วประมาณ 20 ราย และแพทย์อาวุโสประเมินแล้วว่าสามารถทำผ่าตัดดังกล่าวได้ อาจมีโอกาสได้ทำ  vaginal hysterectomy

–   ทำผ่าตัดซ่อมแซม rectovaginal fistula

–   ทำ cold knife conization (CKC) และ Sturmdorf stitch

*  =  มีแพทย์อาวุโสควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

แพทย์ประจำบ้านปีที่ 3

 

1.  สูติกรรม

–   ทำผ่าตัด repeat cesarean section ทั้ง elective และ emergency

–   ทำผ่าตัด cesarean hysterectomy

-*  ทำคลอดครรภ์แฝดที่ต้องใช้สูติศาสตร์หัตถการทุกรูปแบบ

-*  ทำ external cephalic version

-*  ทำ internal podalic version

-*  ทำ total breech extraction

-*  ทำคลอด aftercoming head ด้วย Piper forceps

-*  ทำผ่าตัด McDonald หรือ Shirodkar operation

-*  ทำการตรวจด้วย ultrasound, การทำ NST, CST, BPP, intrapartum FHR

monitoring

-*  ทำ  prenatal diagnosis เช่น amniocentesis, cordocentesis, CVS ฯลฯ

*  =  มีแพทย์อาวุโสควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

2. นรีเวชกรรม

–   ทำผ่าตัด myomectomy

-*  ทำผ่าตัด exploratory laparotomy

–   ทำ laparoscopic examination และ LTR

-*  ทำ cryosurgery และ loop electrosurgical excision procedure (LEEP)

-*  ทำ colposcopic examination

–   ทำผ่าตัด vaginal hysterectomy

-*  ทำผ่าตัด Manchester operation

-*  ทำผ่าตัด simple vulvectomy

-*  ทำผ่าตัด tuboplasty, fimbrioplasty และ salpingostomy

-*  ทำผ่าตัด vaginoplasty

-*  ทำผ่าตัด pelvic node sampling

–   ช่วยทำผ่าตัดซ่อมแซม vesico-vaginal fistula

–   ช่วยทำผ่าตัด Wertheim operation และ radical vulvectomy & groin node dissection

–   ช่วยทำผ่าตัดแก้ไข congenital anomaly ของมดลูก เช่น Strassman operation

–   ช่วยทำผ่าตัดแก้ไข urinary stress incontinence เช่น Marshall-Machetti-Krantz  operation

*  =  มีแพทย์อาวุโสควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

Read More

ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกดีจริงหรือ

ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกดีจริงหรือ

ศ.นพ.จตุพล ศรีสมบูรณ์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา มช. มีคำแนะนำและให้ความรู้ดังต่อไปนี้

หลักการและการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฉีด HPV Vaccine

ปัจจุบันมีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่าการติดเชื้อ HPV แบบเนิ่นนาน (persistent HPV infection) เป็นขั้นตอนสำคัญของการดำเนินโรคเป็นรอยโรคก่อนมะเร็ง ืและมะเร็งปากมดลูก การฉีด HPV vaccine เพื่อการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อ HPV เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันปากมดลูกจากการติดเชื้อ HPV ได้

ส่วนประกอบของ HPV Vaccine

ส่วนประกอบของเชื้อ HPV ที่นำมาเป็น antigen กระตุ้นร่างกายให้สร้าง neutralizing antibody คือโปรตีนที่เปลือกหุ้มเชื้อ HPV หรือ capsid protein ได้แก่ L1 protein ซึ่งจะถูกนำไปเพิ่มจำนวนเพื่อผลิตเป็น HPV vaccine โปรตีน L1 นี้มีคุณสมบัติพิเศษคือ ถ้ามีปริมาณมาก ๆ จะสามารถประกอบตัวกันเอง (self assemble) เป็นอนุภาคที่คล้ายเชื้อ HPV ดั้งเดิม เรียกว่า “virus-like particle” (VLP) ซึ่งมีโครงสร้างภายนอกทุกอย่างเหมือน HPV ต้นแบบ หรือ HPV สายพันธุ์เดิม เพียงแต่ไม่มีโปรตีนที่ก่อมะเร็งเท่านั้น VLP ของเชื้อ HPV นี้เมื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อจะสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง neutralizing antibody ที่จำเพาะต่อเชื้อ HPV สายพันธุ์นั้นได้สูงมาก antibody นี้จะออกจากกระแสเลือดในรูปของสิ่งซึมเยิ้มใส เข้าสู่มูกของปากมดลูก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์นั้น HPV vaccine ที่มีในปัจจุบันประกอบด้วย VLP ของเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 (ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในสตรีทั่วโลก ประมาณร้อยละ 70) ผสมกับสารประกอบเสริม ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ช่วงอายุที่แนะนำให้ฉีด HPV Vaccine

ประสิทธิภาพของ HPV vaccine จะสูงที่สุดในสตรีที่ยังไม่ติดเชื้อ HPV ดังนั้นจึงควรฉีดวัคซีนก่อนถึงวัยที่จะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV และรอยโรคที่จะเกิดตามมา ในปัจจุบัน HPV vaccine มีความปลอดภัย มีศักยภาพการกระตุ้นภูมิคุ้มกันสูง และมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ HPV และรอยโรค ในสตรีช่วงอายุ 9-26 ปี ส่วนสตรีที่มีอายุมากกว่า 26 ปี ยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HPV และรอยโรค สำหรับการฉีด วัคซีนเพื่อกระตุ้นซ้ำ (booster) ยังไม่มีข้อมูลว่าควรฉีดเมื่อไร ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันพบว่าระดับ antibody ยังคงป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้นานอย่างน้อย 5.5 ปี

การฉีด HPV Vaccine

การฉีด HPV vaccine ให้ฉีด 0.5 มล. เข้ากล้ามเนื้อจำนวน 3 ครั้ง (3 เข็ม) ดังนี้

ครั้งที่ 1 : ฉีดในวันที่กำหนดเลือก

ครั้งที่ 2 : ฉีดในเดือนที่ 1-2 หลังจากการฉีดครั้งแรก

ครั้งที่ 3 : ฉีดในเดือนที่ 6 หลังจากการฉีดครั้งแรก

ผลข้างเคียงของการฉีด HPV Vaccine

โดยทั่วไปการฉีด HPV vaccine มีความปลอดภัยสูง ไม่พบอาการข้างเคียงชนิดรุนแรง อาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้แก่

1. อาการข้างเคียงบริเวณที่ฉีดวัคซีน เช่น ปวด บวม แดง และคัน ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เป็นอยู่ชั่วคราวและหายไปเอง

2. อาการทั่วไป เช่น ไข้ พบประมาณร้อยละ 10 ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและหายไปได้เอง อาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย และผื่นคันตามตัว อาการเหล่านี้ไม่รุนแรงและหายไปได้เอง

คำแนะนำที่ควรทราบก่อนการฉีด HPV Vaccine

1. การฉีดวัคซีนเอชพีวีไม่สามารถใช้ทดแทนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้

2 . การฉีดวัคซีนเอชพีวีไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี หูดหงอนไก่ และรอยโรคก่อนมะเร็ง ได้ทุกราย

3. การฉีดวัคซีนเอชพีวีไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อและรอยโรคที่เกิดจากเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์อื่นที่ไม่ได้มีในวัคซีน

4. ถ้ามีการติดเชื้อเอชพีวีแล้วประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงหรือได้ประโยชน์ไม่สูงเท่าที่ควร

5. การฉีดวัคซีนเอชพีวีไม่สามารถใช้รักษาหูดหงอนไก่ รอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูก รอยโรคก่อนมะเร็งของช่องคลอดและรอยโรคก่อนมะเร็งปากช่องคลอดได้ ถ้ามีรอยโรคดังกล่าวควรรักษาให้หายก่อน

6. การฉีดวัคซีนเอชพีวีไม่สามารถป้องกันโรคอื่น ๆ ของอวัยวะเพศที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี เช่น โรคเริม และตกขาวจากเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ เป็นต้น

7. ถ้ามีภูมิคุ้มกันต่ำหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนอาจจะลดลง

8. หลังจากฉีดวัคซีนเอชพีวีแล้ว ถ้ามีเพศสัมพันธ์ ควรจะมีเพศสัมพันธ์ในเชิงป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีด้วย เช่น การมีคู่นอนคนเดียว(monogamous) หรือ การคุมกำเนิดโดยการใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น

9. ในช่วงที่ฉีดวัคซีนเอชพีวี ควรคุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพไว้ก่อนจนกระทั่งฉีดครบ 3 เข็มไปแล้วอย่างน้อย 1 เดือน

10. ควรฉีดวัคซีนเอชพีวีให้ครบ 3 เข็มในช่วงที่กำหนด

11. หลังฉีดวัคซีนเอชพีวีแล้ว ควรมารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตามที่แพทย์นัดเมื่อถึงวัยอันควร

12. หลังฉีดวัคซีนเอชพีวีแล้ว ควรนอนพักสังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาที ไม่ควรเดินกลับคนเดียวหรือขับรถกลับด้วยตนเอง ควรมีเพื่อนหรือผู้ปกครองมาด้วย

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

แนะนำให้สตรีที่ได้รับการฉีด HPV vaccine มารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตามปกติ เนื่องจาก HPV 16/18 vaccine ครอบคลุมเฉพาะเชื้อ HPV 16 และ HPV 18 ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกประมาณร้อยละ 70 เท่านั้น สตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วควรได้รับการตรวจ คัดกรองมะเร็งปากมดลูกตามปกติ ถ้าตรวจพบความผิดปกติควรให้การรักษาตามมาตรฐานก่อนการฉีด HPV vaccine เนื่องจากการฉีด HPV vaccine ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินโรคและ การหายของรอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูก จึงอาจจะพิจารณาการฉีด HPV vaccine ในกรณีดังกล่าวได้ แต่ต้องอธิบายให้ผู้รับการฉีดวัคซีนเข้าใจด้วยว่า ประสิทธิภาพของ HPV vaccine อาจจะลดลงถ้าเคยติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เดียวกับวัคซีนมาก่อน เมื่อเปรียบเทียบกับสตรีที่ไม่เคยติดเชื้อ HPV เลย การฉีด HPV vaccine ในกรณีนี้อาจจะได้ประโยชน์จากการป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีในวัคซีนที่สตรียังไม่ได้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตามต้องเน้นย้ำถึงการมารับ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอด้วย

การตรวจหาเชื้อ HPV ก่อนการฉีด HPV Vaccine

ไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อ HPV (HPV test) ก่อนการฉีด HPV vaccine เนื่องจากการตรวจหาเชื้อ HPV ไม่สามารถระบุได้ว่าเคยมีการติดเชื้อมาแล้วหรือไม่ ถ้าผลการตรวจให้ผลบวกก็บอกได้เพียงว่า มีการติดเชื้อ HPV อยู่ในปัจจุบันหรือไม่เท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นการติดเชื้อแบบชั่วคราว (transient) สามารถหายไปเองได้ หรือเป็นการติดเชื้อแบบเนิ่นนาน (persistent) ซึ่งอาจจะคืบหน้ารุนแรงขึ้นเป็นรอยโรค CIN ต่อไปหรืออาจจะหายไปเองก็ได้ นอกจากนี้ ถ้าวิธีการตรวจไม่สามารถ ระบุสายพันธุ์ของเชื้อ HPV ได้ การที่ HPV test ให้ผลบวก อาจจะเกิดจากเชื้อ HPV สายพันธุ์ใดก็ได้ที่วิธีนั้นสามารถตรวจได้ ถ้าการตรวจหาเชื้อ HPV ให้ผลลบ ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าไม่มีเชื้อ HPV อยู่ที่ปากมดลูก เพราะวิธีการตรวจอาจไม่มีความไวเชิงวิเคราะห์ (analytical sensitivity) สูงพอที่จะตรวจหาเชื้อ HPV ที่มีอยู่ในปริมาณต่ำกว่าเกณฑ์ตรวจ (threshold)ได้ การตรวจหา antibody ต่อเชื้อ HPV ยังไม่สามารถกระทำได้ในทางปฏิบัติ มีแต่ในงานวิจัย และไม่ได้บ่งบอกสภาวะของเชื้อ HPV ที่ปากมดลูก การตรวจหาเชื้อ HPV ก่อนการฉีด HPV vaccine จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนสูงขึ้นมาก ทำให้การให้วัคซีนไม่คุ้มทุน

สตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว

สตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว สามารถฉีด HPV vaccine ได้ สตรีที่เคยมีผล Pap smear ผิดปกติ ควรได้รับการดูแลตามมาตรฐาน ถ้าได้รับการรักษาหายแล้ว สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ควรให้คำแนะนำว่าประสิทธิภาพของวัคซีนอาจจะลดลงถ้าเคยติดเชื้อ HPV มาก่อน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังต้องมารับ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอด้วย

สตรีที่เคยเป็นรอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูกมาก่อน

สตรีที่เคยเป็น CIN มาก่อน ถ้าได้รับการรักษาแล้วสามารถฉีด HPV vaccine ได้ แต่ต้องมารับการตรวจติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์นัด และต้องเน้นย้ำว่าถ้าสตรีมีการติดเชื้อ HPV 16/18 แล้ว การฉีด HPV 16/18 vaccine ไม่ได้มีผลในเชิงรักษาและอาจจะได้ประโยชน์น้อยในการป้องกัน การติดเชื้อ HPV 16/18 และรอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูกที่เกิดจากเชื้อ HPV 16/18 แต่อย่างไรก็ตามการฉีด HPV 16/18 vaccine จะช่วยป้องกัน การติดเชื้อ HPV 16/18 ซ้ำ (reinfection) การแพร่เชื้อ HPV 16/18 จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งของเยื่อบุปากมดลูก (autoinoculation) และการแพร่เชื้อ HPV ไปสู่คู่นอน (transmission)

สรุป

มะเร็งปากมดลูกเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย โดยพบเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในสตรีไทย สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกคือ การติดเชื้อ HPV ชนิดก่อมะเร็ง การป้องกันมะเร็งปากมดลูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ การตรวจคัดโรคโดยการทำ Pap smear หรือ HPV test เป็นการป้องกันแบบทุติยภูมิ ซึ่งเป็นการตรวจหาสตรีที่ติดเชื้อ HPV หรือมีความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกจากการติดเชื้อ HPV แล้ว ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักหรือ ขั้นตอนแรกของกระบวนการก่อมะเร็งปากมดลูก การฉีด HPV vaccine เพื่อสร้างเสริมให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ HPV เป็นการป้องกันแบบปฐมภูมิและ เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งในการที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV และรอยโรคก่อนมะเร็ง ซึ่งจะนำไปสู่การลดอุบัติการณ์ของมะเร็งปากมดลูกในระยะยาว ผลการศึกษา เกี่ยวกับ HPV vaccine ใน phase I, II และ III พบว่ามีความปลอดภัยสูง กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้แรงกว่าการติดเชื้อ HPV ตามธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพ สูงมากอย่างมีนัยสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ HPV และรอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูกที่เกิดจากเชื้อ HPV สายพันธุ์เดียวกับวัคซีนที่ฉีด อย่างไรก็ตามการตรวจ คัดโรคมะเร็งปากมดลูกก็ยังมีความจำเป็นอยู่ เนื่องจาก HPV 16/18 vaccine สามารถครอบคลุมเชื้อ HPV 16/18 ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ได้ประมาณร้อยละ 70 ถึงแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันรอยโรคก่อนมะเร็งที่เกิดจากเชื้อ HPV 16/18 ได้สูงถึงร้อยละ 99-100 ก็ตาม

Read More

สิทธิของผู้ป่วยมีอะไรบ้าง?

คำประกาศสิทธิของผู้ป่วย 

  1. ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิพื้นฐานที่จะได้รับบริการด้านสุขภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
  2. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติเนื่องจากความแตกต่างด้านฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม ลัทธิ การเมือง เพศ อายุ และลักษณะของความเจ็บป่วย
  3. ผู้ป่วยที่ขอรับบริการด้านสุขภาพมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจชัดเจนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอม หรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือรีบด่วนหรือจำเป็น
  4. ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต มีสิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันที ตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่คำนึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่
  5. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบ ชื่อ สกุล และประเภทของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพที่เป็นผู้ให้บริการแก่ตน
  6. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่น ที่มิได้เป็นผู้ให้บริการแก่ตน และมีสิทธิในการขอเปลี่ยนผู้ให้บริการและสถานบริการได้
  7. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง จากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยเคร่งครัด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
  8. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วน ในการตัดสินใจเข้าร่วม หรือถอนตัวจากการเป็นผู้ถูกทดลองในการทำวิจัยของผู้ประกอบการวิชาชีพด้านสุขภาพ
  9. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อร้องขอ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น
  10. บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรมอาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือทางจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้
Read More