Happy New Year 2011
สวัสดีปีใหม่ 2554
|
ส.ค.ส. 2554
สดุดีปีใหม่
หลังจอดรถโตโยต้าสีดำแวะข้างทางซื้อกาแฟ 1 ถุง
ชายผู้นั้นขับรถคนเดียวออกไป แล้วจอดติดไฟแดงที่สี่แยก
จนมีรถตำรวจซึ่งขับนำรถเบนซ์มาได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้นั้นติดไฟแดง
“นี่เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรี ขอให้หลบไป” แต่รถผู้นั้นไม่หลบ
ตำรวจจึงลงมาที่รถของชายผู้นั้นและเรียกให้ลงจากรถ
พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ ตำรวจเห็นแล้วแทบเป็นลมล้มทั้งยืน
ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถตกใจจนต้องวิ่งลงมาดูพร้อมกับรัฐมนตรี
ทั้งหมดขาสั่น อ่อนแรง นั่งลงไปกับพื้นทันที
ชายคนนั้นเป็นผู้ที่อยู่บนธนบัตร คือ “ในหลวงองค์ปัจจุบัน”
“พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกับจะต้องฝ่าไฟแดง” ……………..
………ตำรวจทูลว่า ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า
ทรงตรัสว่าเราไม่ต้องให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอก เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถท่านรัฐมนตรีเถอะ
แล้วในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้นโดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไป
ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข
อย่าโกรธใครเลย
เมื่อคนเราเริ่มริษยา
จิตใจจะร้อนและร้าย
สมองส่วนโง่จะแอคทีฟ
โปรเจคท์พยาบาทจะบังเกิด
ด้วยวัตถุประสงค์มุ่งร้ายทำลายเขา
แต่เผาตัวเองโดยไม่รู้ตัว
อัจฉริยะ… จะเรียนรู้การดับริษยา
คนลืมตัว… จะใช้ปฏิบัติตามคำสั่งสมองที่เก่งแต่โง่
ก่อเกิดการวางอำนาจ ข่มใคร ๆ หิวหาความสะใจ
คนที่เจ็บที่สุดคือตนเอง
2554…ดี
ทุกเรื่องที่คิด
ทุกกิจที่ทำ
ทุกคำที่พูด
ขอให้มีอิสรภาพในชีวิต
ทำสิ่งดี ๆ โดยไม่ต้องมีคนเห็น
ดีให้ได้โดยไม่ต้องมีใครจดจำ
ปิติใจได้เองโดยไม่ต้องมีใครปรบมือ
อิสระจากแรงริษยา โลภ รัก ชิงชัง
ถึงเป็นซุปเปอร์สตาร์ก็ปรารถนาอยู่หลังเวที
ไม่ต้องบิน สูงลิ่ว พ้นทิวเขา
แค่บินเอา เท่าพลัง ยังบินไหว
ท่าที่บิน ไม่ต้องหรู อย่างผู้ใด
แค่สุขใจ บินเสรี เท่านี้พอ
ขอให้สดชื่นแจ่มใส
มีบ้างบางครั้งโกรธ วีนผู้ร่วมงาน เพราะลืมตัว
ควรทำอย่างไรเมื่อมันพลุ่งพล่านออกมา
ฝึกฝนมีสติรู้ตัว เป็นลำดับแรก แล้วหยุดพูด
ทุกคำที่พูดเวลาโกรธทำให้คุณดูแย่และหยาบ แม้ถ้อยคำจะไพเราะ
หัวหน้าจะดูวางอำนาจ สมเพช ลูกน้องจะดูดื้อรั้น ยะโส
บรรยากาศแห่งความร้อนบวกโง่จะปกคลุมทั้งองค์กร
หยุดตัดสินใจ ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเล็ก ไม่เซ็นสั่งงาน ไม่ชี้แจงเจ้านาย
มันเป็นวินาทีที่เสี่ยงต่อความผิดพลาด
หลับตา ดูใจ ให้อภัย ไม่สร้างอกุศลร่วมกัน ไม่เติมไฟแก่กัน
ระบายเชิงบวก ซักผ้า เก็บขยะ อ่านหนังสือดี ๆ
ใจสงบ แล้วค่อยคุยกัน สุดยอดปัญญาย่อมรู้ว่า
ไม่มีใคร หรืออะไร ควรค่าแก่การถือสา
หน้าที่เรา ขอโทษ หรือให้อภัย ทำความเข้าใจ
แม้ว่าอาจต้องวางเฉยกับใครสักคน
ขอให้เป็นปีที่มีค่าสูงส่ง
จากบทสนทนากับชายอนาถาวัย 60
“สิ่งสำคัญที่ลุงปรารถนาที่สุดในชีวิต
คืออะไรครับ เงินเดือน บ้าน รถ หรืออะไร?”
ลุงตอบว่า.. “คือการที่มีอะไรให้ผมรับผิดชอบบ้าง”
!!! เบื้องลึกแห่งใจ… ใคร ๆ ก็ปรารถนาคุณค่า
อันนำมาซึ่งปิติเบิกบานใจในชีวิต
โชคดีสักเพียงใดที่เราต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ
แล้วใยเราจะมิทำหน้าที่นี้ให้สุดยอด
ขอให้มีความสุข
ความสุขไม่ได้อยู่ที่มี แต่อยู่ที่พอ
คนทั่วไปพยายามมี
คนฉลาดพยายามพอ
รู้สึกขาดก็จะเอา รู้สึกพอก็จะให้
อิสรภาพที่แท้เกิดจากไร้ความกดดัน
ด้วยแรงแห่งรักโลภโกรธหลง
ขอให้อยู่อย่างเป็นที่รัก
วันหนึ่งในห้องคลอด
เขาถือกำเนิดด้วยเสียงร้องจ้า
ราวกับว่าโลกนี้แสนโหดร้าย
ลืมแล้วปิดตาอย่างผวาหวาดหวั่น
แต่เป็นวันที่คนรอบข้างยิ้มแย้มต้อนรับ
อย่างปิติผ่องใสไปทั่วตระกูล
เราขออวยพร…สักวันที่เจ้าจะจากโลกนี้ไป
ขอให้มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มผ่องใส
แต่เป็นวันที่คนรอบข้างร้องไห้ปานจะขาดใจ
ขอให้รวย
วอร์เรน บัพเฟตต์ (Warren Buffet) มหาเศรษฐีโลก
เก็บเงินสะสมจากการส่งหนังสือพิมพ์ ซื้อไร่เล็ก ๆ ตอนอายุ 14 ปี
ยังคงอยู่บ้านเล็ก ๆ 3 ห้องนอนที่ซื้อไว้เมื่อ 50 ปีก่อน
เขารู้สึกว่าบ้านนี้มีพร้อมแล้ว ทั้งที่แม้แต่รั้วก็ไม่มี
ไปไหนมาไหนเอง.. ไม่มีคนคุ้มกัน ไม่เคยใช้เครื่องบินส่วนตัว
ทั้งที่เป็นเจ้าของบริษัทเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1
อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1
เขาไม่ใช้โทรศัทท์มือถือ ไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
แต่บริจาคเงินการกุศล 31,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
มีแล้วให้ ได้แล้วแบ่ง
ขอให้อยู่อย่างยิ่งใหญ่
ออกโอพีดีวันนี้ ตรวจคนไข้ไปแล้ว 3-4 ราย
บ้างคิดว่า…มันช่างน่าเบื่อจริง ๆ รออยู่สักกี่รายกันละนี่
บ้างคิดว่า…มันเป็นหน้าที่..ก็ทนทำไปดีกว่า
บางคนคิดว่า…นี่คืองานยิ่งใหญ่
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจแห่งพระราชบิดา
ใครต่อใครแวะเวียนมาหาเรา แล้วรู้สึกดีกลับบ้านไป
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ อยู่ที่ใจศรัทธาในงาน
ไม่ได้อยู่ที่ห้องผู้บริหาร หรืองานมากอิทธิพล
แต่อาจเป็นชิ้นงานเล็ก ๆ ของจิตใจที่ยิ่งใหญ่
แค่ฉลาดคิด ชีวิตอาจเปลี่ยนใหม่หมด
วันนี้ พรุ่งนี้ ซึมซับสิ่งดีๆ จากโอพีดีของเรา