คำนำ
คู่มือเล่มนี้ใช้ชื่อว่า “คู่มือช่วยการเรียนรู้” เพราะเป็นคู่มือที่ “ครู” จัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้นักศึกษา หรือ “ผู้เรียน” เรียนได้ผลดี ทั้งนี้เพราะ “การเรียน” นั้น โดยแท้จริงแล้วย่อมเป็นกิจการของผู้เรียน โดยมี “ครู” เป็นผู้ช่วยจัดกลไกในการเรียน เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้ในตัวผู้เรียน ไม่ว่าจะเรียนเรื่องใด ” ครู” มีหน้าที่ช่วยให้เกิดกลไกเหล่านั้นได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ประทับใจ ฯลฯ
กลไกในการเรียนรู้ เริ่มจากผู้เรียนได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ เมื่อบังเกิดความสนใจ จึงได้พินิจพิจารณา หาเหตุผลด้วยปัญญาของตนเอง ครั้นนำเอาเหตุผลนั้นไปทดลองกับปรากฏการณ์ในลักษณะเดียวกันต่อไป ก็ปรากฏว่าใช้ได้ เป็นการยืนยันว่าเหตุผลที่สรุปด้วยสติ ปัญญาของตนเองนั้นถูกต้อง จึงรับไว้เป็นแนวทางต่อไป หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าได้เรียนรู้แล้ว
” ครู ” มีหน้าที่เร้าใจให้ ” ผู้เรียน ” สนใจ พยายามจัดหาอุปกรณ์ และสร้างบรรยากาศให้ ” ผู้เรียน ” สนุก ที่จะเรียน อยากเรียน ดังนั้นในกรณีที่ ” ผู้เรียน ” มีความกระตือรือร้น หรือแรงดลใจอยู่แล้ว ก็ย่อมจะทำให้การเรียนได้ผลดียิ่งขึ้น
ที่ว่าการเรียนได้ผลดีนั้น หมายความว่าอย่างไร ?
คำตอบ คือ เรียนจนได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
วัตถุประสงค์ คือ อะไร ?
วัตถุประสงค์ในความหมายในทางการศึกษา หมายถึง ลักษณะที่คาดหวังว่าเมื่อ ” ผู้เรียน ” เรียนจบแล้วมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ? ลักษณะดังกล่าวนี้ จำแนกออกเป็น 3 ประการ คือ ความรู้ ความชำนาญ และ เจตคติ
คู่มือเล่มนี้ จะช่วยให้ ” ผู้เรียน ” เรียนได้ บรรลุวัตถุประสงค์
รศ.นพ.กำจัด สวัสดิโอ
อดีตหัวหน้าภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้กระบวนวิชา พ.สต.601 โดยอาศัยวัตถุประสงค์ของหลักสูตรสาขาวิชาแพทยศาสตร์ พ.ศ. 2553 และ เกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา พ.ศ. 2555 เป็นแนวทางประกอบกัน
1. วัตถุประสงค์ของหลักสูตร สาขาวิชาแพทยศาสตร์ พ.ศ. 2553
เพื่อผลิตบัณฑิตแพทย์ให้มีคุณลักษณะดังนี้
- มีคุณธรรม จริยธรรม และเจตคติ ปฏิบัติตนถูกต้องตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพแพทย์
- มีร่างกายและจิตใจที่ไม่เป็นอุปสรรคในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
- มีความรู้พื้นฐานทางวิชาชีพ สามารถแก้ไขปัญหาในเวชปฏิบัติปฐมภูมิ โดยคำนึงถึงปัญหา ทางร่างกาย จิตใจเศรษฐฐานะ สิทธิของผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับตัวผู้ป่วย ครอบครัวและชุมชน สามารถใช้วิจารณญาณแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลเป็นระบบและรู้ขีดความสามารถของตนเอง
- มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีความสามารถในการติดต่อสื่อสาร สร้างมนุษยสัมพันธ์ และถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีนิสัยใฝ่รู้ และศึกษาอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม 6. มีภาวะความเป็นผู้นำ รู้หลักการและมีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการด้านการแพทย์ให้ สอดคล้องกับระบบสาธารณสุขของประเทศและงานทั่วไป
- สามารถพัฒนาตนเองและปรับตัวให้เข้ากับขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีและ สิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานของคุณธรรม
2. วัตถุประสงค์ของกระบวนวิชา พ.วป. 603 (332603) : เวชปฏิบัติสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
นักศึกษาสามารถ
- มีทักษะทางคลินำในการวินิจฉัยโรคทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาที่พบบ่อย
- รักษาผู้ป่วยอย่างเหมาะสม โดยอ้างอิงหลักฐานทางการแพทย์ หลักจริยเวชศาสตร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ทำหัตถการพื้นฐานทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
- แนะนำเรื่องโรค การรักษา และการสร้างเสริมสุขภาพแก่ผู้ป่วยและญาติ
- เข้าใจ และให้เหตุผลในการส่งต่อผู้ป่วย
- สื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่น
เกณฑ์ที่คาดหวังว่าจะได้รับ เมื่อผ่านการเรียนการสอนของภาควิชาฯ
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้ตามหลักการบริบาลที่ถูกต้อง คือ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ ตลอดจนการปฏิบัติวิชาชีพตามกฎหมาย โดยจะต้องมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้ในเรื่องต่างๆ ตามเกณฑ์แพทยสภา ปี 2553 ดังนี้
กลุ่มที่ 1 : โรค/กลุ่มอาการ/ภาวะฉุกเฉินที่ต้องรู้กลไกการเกิดโรค สามารถให้การวินิจฉัยเบื้องต้น และให้การบำบัดการรักษาได้อย่างทันท่วงที ตามความเหมาะสมของสถาณการณ์ รู้ข้อจำกัดของตนเองและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีประสบการณ์มากกว่าได้อย่างเหมาะสม
- obstructed labor
- threatened uterine rupture
- asphysxia of the newborn
- fetal distress
- antepartum and postpartum hemorrhage
กลุ่มที่ 2 : โรค/กลุ่มอาการ/ภาวะที่ต้องรู้กลไกการเกิดโรค สามารถให้การวินิจฉัย ให้การบำบัดการรักษาได้ด้วยตนเอง รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพ การส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรค ในกรณีที่โรครุนแรง หรือซับซ้อนเกินความสามารถให้พิจารณาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และส่งผู้ป่วยต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญ
- cystitis, urethritis
- vulvovaginitis
- cervicitis
- Pelvic inflammatory disease (endometriits,salpingitis,oophoritis,tuboovarian abscess)
- menstrual disorder
- abnormal uterine or vaginal bleeding
- menopausal & perimenopausal disorder
- abnormal findings on antenatal screening of mother (biochemical,hematological,serological,cytological,chromasomal)
- abortion
- hyperemesis gravidarum
- antepartum hemorrhage (placenta previa, abruption placenta)
- hypertensive disorder in pregnancy
- other maternal disorders related to preganancy ( infection of genitourinary tract, diabetes mellitus, malnutrition)
- malposition and malpresentation of the fetus
- normal delivery
- preterm labor
- premature rupture of membrane , chorioamnionitis
- prolonged pregnancy (postdate, posterm)
- abnormal labor forces (prolonged labor)
- fetal distress
- trauma to birth canal during delivery & fetal injury
- complications during puerperium
- birth infection associated with childbirth
- hydratidiform mole
- birth asphysxia
กลุ่มที่ 3 : โรค/กลุ่มอาการ/ภาวะที่ต้องรู้กลไกการเกิดโรค สามารถให้การวินิจฉัยแยกโรค และรู้หลักในการดูแลรักษา แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ตัดสินใจส่งผู้ป่วยต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพ การส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรค
- endometriosis
- Bartholinitis & abscess, barthrolin cyst
- imperforated hymen
- female genital prolapsed (cystocele,rectocele,prolapsed uterus)
- fistula involving female genital tracts
- umbilical cord complication (prolapsed cord, vasa previa)
- obstructed labor
- ectopic pregnancy
- multiple gestation
- fetopelvic disproportion
- polyhydraminos, oligohydraminos
- benign and malignant neoplasm of genital tract
หัตถการ
1. หัตถการพื้นฐานทางคลินิก เมื่อจบแพทยศาสตร์บัณฑิตแล้วสามารถบอกข้อบ่งชี้ ขั้นตอนวิธีการทำ บอกภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น และสามารถทำได้ด้วยตนเอง
- Normal labor
- Amniotomy
- Episiotomy and perineorrhaphy
- Pap smear preparation
- Remove foreign body from vagina in adult
2. หัตถการที่มีความซับซ้อนกว่าหัตถการพื้นฐาน และมีความสำคัญต่อการรักษา เมื่อจบแพทยศาสตร์บัณฑิตแล้วสามารถบอกข้อบ่งชี้ ขั้นตอนวิธีการทำ บอกภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ถูกต้อง สามารถทำภายใต้การแนะนำได้ถูกต้อง และเมื่อผ่านการเพิ่มพูนทักษะแล้ว สามารถทำได้ด้วยตนเอง
- Cervical dilatation and uterine curettage
- Tubal ligation & resection
- Insertion and removal of intrauterine device
- Removal of foreign body from vagina
- Biopsy of cervix
3. หัตถการที่มีความซับซ้อน และ อาจทำในกรณีที่จำเป็น สามารถบอกข้อบ่งชี้ ขั้นตอนวิธีการทำ บอกภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ถูกต้อง เมื่อจบแพทยศาสตร์บัณฑิตต้องเคยเห็น เคยช่วย และเมื่อผ่านการเพิ่มพูนทักษะต้องได้ทำภายใต้คำแนะนำ
Low transverse cesarean section
4. หัตถการที่มีความซับซ้อน และ/หรือ อาจเกิดอันตรายที่ร้ายแรงได้ ถ้าปฏิบัติไม่เหมาะสม และ / หรือ ต้องอาศัยการฝึกฝนเพิ่มเติม สามารถบอกข้อบ่งชี้ หลักการ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิด สามารถให้คำแนะนำปรึกษาแก่ผู้ป่วยได้ถูกต้อง เมื่อจบแพทยศาสตร์บัณฑิตและผ่านการเพิ่มพูนทักษะต้องเคยเห็นหรือเคยช่วย
- Vacuum extraction
- Low forcep extraction
- Manual removal of placenta
- Culdocentesis
- Marsupilization of Bartholin cyst
- Conization of uterine cervix
- Salpingectomy and oophorectomy
- Breech assisting and extraction
- Contraceptive drug implantation and removal
5. หัตถการเฉพาะทาง สามารถบ่งชี้ หลักการ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิด สามารถให้คำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการส่งต่อผู้ป่วยต่อไปได้อย่างเหมาะสม และสำหรับให้คำแนะนำปรึกษาแก่ผู้ป่วย
Hysterectomy
ความสามารถพื้นฐานในการตรวจ และเลือกส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่
- การทำ Papanicolaou ‘s smear
- การตรวจ อัลตร้าซาวด์ในหญิงตั้งครรภ์ และ ในท้องน้อย
ลักษณะงาน
ภาคบรรยาย :
มีการบรรยาย 4 ชั่วโมง เรื่อง Common problems in Gyne , Common problems in OB , Contraception & Family planning และ Emergency OB: APH, PPH
ภาคปฏิบัติงาน :
ฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยทั้งสูติกรรมและนรีเวชกรรม ร่วมกับแพทย์ประจำบ้าน และอาจารย์แพทย์ ประมาณ 50-70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยภาควิชาฯยึดถือนโยบายว่า การปฏิบัติใดๆก็ตามต่อผู้ป่วย เป็นความรับผิดชอบอย่างสำคัญที่สุด จะละทิ้งไม่ได้
1. ด้านสูติกรรม
- ฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยสูติกรรม ดูแลสตรีมีครรภ์ที่ปกติ ผิดปกติและมีโรคแทรกซ้อนในระยะก่อนเจ็บครรภ์ ระยะเจ็บครรภ์ และระยะหลังคลอด
- ฝึกปฏิบัติงานในห้องคลอด ดูแลสตรีมีครรภ์ที่ปกติ ผิดปกติ และมีโรคแทรกซ้อนในระยะเจ็บครรภ์ รวมทั้งการคลอด ทำคลอดในรายปกติ ช่วยทำคลอดในรายผิดปกติและรายที่มีโรคแทรกซ้อน
- ฝึกปฏิบัติงานในห้องผ่าตัด ช่วยผ่าตัดทำหมัน ช่วยผ่าตัดในรายผ่าท้องทำคลอด ช่วยผ่าตัดโรคนรีเวชกรรมบางอย่าง
- ฝึกปฏิบัติงานที่ห้องฝากครรภ์ ดูแลสตรีมีครรภ์ ตรวจวินิจฉัย ให้การรักษา และให้คำแนะนำแก่สตรีที่มีครรภ์ปกติ ผิดปกติ และมีโรคแทรกซ้อน
- ฝึกปฏิบัติงานนอกเวลาราชการในห้องคลอด ตามที่ภาควิชา ฯ จัดให้
- เป็นพี่เลี้ยงแก่นักศึกษาแพทย์ปีที่ 5
- ตรวจ เช็ค และ/หรือ กรอกรายละเอียดต่างๆ ในแบบรายงานผู้ป่วยให้ครบถ้วนสมบูรณ์
2. ด้านนรีเวชกรรมและวางแผนครอบครัว
- ฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยนรีเวชกรรม ตรวจ วินิจฉัย และดูแลผู้ป่วยนรีเวชกรรม ก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด
- ฝึกปฏิบัติงานในห้องผ่าตัด ช่วยผ่าตัด ทั้งผ่าตัดเล็กและผ่าตัดใหญ่ ช่วยขูดมดลูกในรายที่ไม่ติดเชื้อ
- ฝึกปฏิบัติงานที่หน่วยผู้ป่วยนอก ตรวจ วินิจฉัย และให้การรักษาแก่ผู้ป่วยหลังคลอด ให้คำแนะนำ และ
- ให้การรักษาแก่สตรีที่มารับบริการวางแผนครอบครัว
- ฝึกปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ตามที่ภาควิชา ฯ จัดให้
- เป็นพี่เลี้ยงแก่นักศึกษาแพทย์ปีที่ 4
- ตรวจ เช็ค และ/หรือ กรอกรายละเอียดต่างๆ ในแบบรายงานผู้ป่วยให้ครบถ้วนสมบูรณ์
3. การอภิปราย หรือการสัมมนา และการบรรยายพิเศษ
(เฉพาะนักศึกษาแพทย์ที่ผ่านการปฏิบัติงานในคณะแพทยศาสตร์ )
- Morning Conference : การอภิปรายผู้ป่วยที่รับไว้ในความดูแลในเวลานอกราชการ ของทุกวัน โดยแพทย์ประจำบ้านที่อยู่เวรประจำวันนั้นๆ ทุกวันเวลา 7.00-8.00 น. ห้องเรียน อ.กำจัด
- Interesting Case Conference : การอภิปรายเกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีปัญหา หรือน่าสนใจประจำสัปดาห์
- ทุกวันจันทร์ เวลา 13.00-14.30 น. ห้องประชุมหม่อมเจ้าอำนอร์สวัสดิ์ – ศุภร
- Topic or Journal Club : เรื่องที่น่าสนใจและเรื่องน่ารู้จากวารสารทางการแพทย์ ทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ทุกวันอังคารและพฤหัสบดี เวลา 15.30 -16.30 น. ห้องเรียน อ.กำจัด
- Special Lecture : การบรรยายพิเศษโดยอาจารย์ในภาควิชา ฯ หรือเรียนเชิญจากต่างภาควิชา ในหัวข้อที่น่าสนใจหรือเป็นปัญหาที่พบบ่อย ที่เกี่ยวข้องกับทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ทุกวันอังคารและพฤหัสบดี เวลา 15.30 -16.30 น. ( เป็นครั้งคราว ) ห้องเรียน อ.กำจัด
- Specialty Lecture : เวลา 13.00 – 14.30 น. วันศุกร์ เรื่องที่น่าสนใจของหน่วยงานต่าง ๆ สลับกันไป
- Perinatal conference
- Onco conference
- Endocrine conference
- Family Planing conference
- Hand on U/S &Critical U/S for extern โดย ศ.นพ.ธีระ ทองสง และทีมคณาจารย์ วันอังคาร เวลา 13.00 – 15.00 น. ห้องตรวจฝากครรภ์ ผู้ป่วยนอก (OPD 4)
สถานที่ฝึกปฏิบัติงาน/ ระยะเวลา
จัดแบ่งการฝึกปฏิบัติงานนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ
- กลุ่มที่ 1 ปฏิบัติงานตลอด 2 เดือน ณ โรงพยาบาลสมทบ แห่งใดแห่งหนึ่งคือ โรงพยาบาลลำปาง โรงพยาบาลน่าน โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลพะเยา โรงพยาบาลตากสินมหาราช โรงพยาบาลแม่สอด โรงพยาบาลสุโขทัย โรงพยาบาลศรีสังวร โรงพยาบาลลำพูน
- กลุ่มที่ 2 ปฏิบัติงานที่คณะแพทยศาสตร์ฯ 1 เดือน และที่โรงพยาบาลนครพิงค์อีก 1 เดือน ได้แก่ รวมทั้งหมดเป็น 10 สถาบัน
ทำอย่างไรจึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียน
1. หลักการเรียนรู้ ดังได้กล่าวมาแล้วในคำนำว่า ผลของ ” การเรียน ” ย่อมขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนเป็น สำคัญ
อย่างไรก็ดีการเรียนรู้ ” วิธีเรียน ” ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการศึกษาก็จะยิ่งช่วยให้เรียนรู้ได้ผลดี ยิ่งขึ้น
วงจรของการเรียนรู้อาจจะสรุปได้ดังนี้
วัตถุประสงค์
การประเมินผล การจัดประสบการณ์การเรียนรู้
2. การเรียนภาคปฏิบัติ
ตามหลักการเรียนรู้ภาคปฏิบัตินั้น มีขั้นตอนนับแต่การใช้มือ ใช้เครื่องมือ ทดลองทำตามคำแนะนำ และลงมือทำด้วยตนเอง ความชำนาญจึงจะบังเกิดขึ้นได้
” ไม่มีใครเกิดความชำนาญได้โดยไม่ลงมือทำ “
3. การทำงานและการเรียนร่วมกัน
เป็นที่ยอมรับว่าผู้ประกอบวิชาชีพไม่ว่าแขนงใด จะให้ได้รับผลสำเร็จด้วยดีนั้น ต้องมีความสามารถ 2 ด้านประกอบกัน คือ ความรู้ความสามารถในงานวิชาชีพโดยตรง และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
หลักสูตรสาขาวิชาชีพแพทยศาสตร์ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำหนดไว้ชัดเจนว่า ” บัณฑิตที่จบหลักสูตรนี้จะต้องมีความกระตือรือร้น ความสามารถที่จะศึกษาต่อด้วยตนเอง และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาชุมชน “
ดังนั้นในการปฏิบัติงาน ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงเน้นเรื่องมนุษยสัมพันธ์ และการทำงานร่วมกันเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง โดยจะมอบหมายให้ผู้เรียน ร่วมกันรับผิดชอบ ในการปฏิบัติงานเป็นกลุ่มย่อย เพื่อผู้เรียนจะได้มีโอกาสฝึกการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพไปด้วยในเวลาเดียวกัน