สวัสดีปีใหม่ 2552
Happy New Year 2009

09Top

ส.ค.ส. 2552

พร ธรรม กำลังใจ

อีกปีหนึ่ง ใช่ไหม ในชีวิต

ที่ฝึกจิต ยิ้มรับ ความสับสน

ยังหยัดยืน ฝีนโลก ที่โศกล้น

คงกมล มิหวั่น สั่นสะเทือน


 

ขอให้ชีวิตมีคุณค่า

มันไม่สำคัญหรอกว่า

เรียนสูงแค่ไหน ตำแหน่งวิชาการอะไร

เป็นผู้บริหารสูงส่งแค่ไหน

รายได้ดีเพียงใด เก่งกาจขนาดไหน

มันอยู่ที่ทำให้ใคร..เบิกบานใจได้บ้าง


 

ขอให้มีความฝัน

จงมีใฝ่ฝันถึงชีวิตที่มีค่า ไม่ใช่ชีวิตที่มีหน้ามีตา

จงมองไปข้างหน้า เพื่อก่อความหวัง

จงมองไปข้างหลัง เพื่อเก็บบทเรียน

ก่อความเพียร เพื่อสร้างแต่สิ่งที่ดี ๆ

สร้างประวัติศาสตร์ชีวิตงดงามด้วยความดี..

ใช่เพราะมีอะไรมากมายไว้ครอบครอง

โลกนี้มีแต่คนอยากสร้างอนุสาวรีย์คนดี

ไม่ใช่อนุสาวรีย์คนรวย


 

ขอให้มีใจมุ่งมั่น

ประวัติศาสตร์ บ่งชี้ กี่ยุคแล้ว

ว่าดวงแก้ว มักซ่อนอยู่ ภูผาหิน

ไม่สะกัด ภูผา เป็นอาจิณ

ก็ชื่นชม แค่เศษดิน จนสิ้นใจ


 

ขอให้เป็นปีแห่งความมุ่งมั่น

หนึ่งความฝันต้องพันความเพียร

จึงจะเปลี่ยนจินตนาการให้เป็นความจริง

แม้ว่าจิตใจที่มุ่งมั่น ไม่อาจรับประกันถึงชัยชนะเสมอไป

แต่จิตใจที่ขาดความมุ่งมั่น รับประกันถึงความพ่ายแพ้เสมอมา


 

ขอให้ฉลาดล้ำโลก

การศึกษาที่แท้จริง…

ความรู้มีมากมาย แต่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้

แต่มีความรู้แค่กำมือเดียว ที่จำเป็นต้องรู้

คือความรู้ที่รู้แล้วตาสว่าง ใจเป็นสุข

ความโกรธเจือจาง ความโลภลดลง ความหลงหายไป

เป็นความรู้ชนิดเดียวที่จำเป็นที่สุดของชีวิต

ถ้ามีความรู้นี้แล้วถือว่าฉลาดล้ำโลก (Megaclever)


 

ขอให้มีชีวิตที่งดงาม

ทำแต่สิ่งที่ดี ๆ

ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี

ดูแลใจให้คิดแต่สิ่งที่ดี ๆ

รักษาใจให้ผ่องใสทั้งวัน

ชีวิตที่เหลือจะทำอะไรก็ได้

งดงามทั้งสิ้น และนี่คือเสน่ห์ง่าย ๆ แต่ดูดี


 

ขอให้มากด้วยความอดทน

ยอมไม่ได้ เป็นใหญ่ยาก ฝากให้คิด

ผู้พิชิต ทั้งหลาย ในโลกหล้า

ต่างยอมแล้ว ยอมเล่า เคล้าน้ำตา

ยอมจนกว่า ยอมให้เขา ยอมเราเอง

(จำมาจากทอล์คโชว์ หมอพงษ์ศักดิ์)

จะเถียงกันทำไม เพื่อปกปักความคิดตนเอง เพื่อบอกว่าเราถูก

คนโง่ที่สุดเท่านั้น ที่ต้องการให้คนทั้งโลกคิด และเชื่อเหมือนตัวเอง

เปิดใจอีกนิด มีแง่คิดดี ๆ อีกมากมายให้เราได้รู้ได้เห็น


 

ขอให้มีความรัก

ในตอนเช้าที่คิวยาว เมื่อหมอท่านหนึ่งจะตัดไหมให้ลุงวัย 80 กว่า ซึ่งท่าทีกังวลเหมือนมีนัด

“ไม่มีนัดที่ไหนหรอก แต่ต้องรีบไปเนิร์ซซิ่งโฮมเพื่อกินอาหารเช้ากับภรรยา”

ผมก็ถามถึงสุขภาพของภรรยา….ท่านก็ตอบว่า

“ภรรยาอยู่ที่นั่นมานานแล้ว เธอเป็น Alzheimer’s จำผมไม่ได้มา 5 ปีแล้ว”

…..แล้วคุณก็ยังไปทุกเช้าถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใครก็ตาม…

คำตอบคือว่า ‘ถึงเธอไม่รู้จักผม แต่ผมยังรู้ว่าเธอเป็นใคร’

บทเรียนเช้านี้…นั่นคือความรักที่เราต่างโหยหามาชั่วชีวิต

ทำให้ฉุกคิด.. ผมทำดีกับใครไป..ผมจะไม่จำ ใครทำดีกับผมมา..ผมจะไม่ลืม

(บางตอนจากบทความที่ส่งต่อๆ กันมาทาง e-mail)