หลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อวุฒิบัตรฯ
หลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อวุฒิบัตร แสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขานิติเวชศาสตร์ แพทยสภา
(Training Program for Advanced Diploma in Proficiency in Forensic Medicine, Thai Medical Council)
พันธกิจด้านการให้การฝึกอบรมแพทย์ใช้ ทุนแพทย์ประจําบ้าน
ผลิตแพทย์ผู้มีความรู้ความชํานาญทางด้านนิติเวชศาสตร์ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามมาตรฐานของแพทยสภา ที่สามารถนําความรู้และทักษะทางการแพทย์ไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศไทย ให้คําแนะนําและการสนับสนุนทางด้านนิติเวชศาสตร์แก่แพทย์ทั่วไปและทํางานในรูปแบบสหวิชาชีพได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อคู่ความและสังคม
ผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม
ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กำหนดผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม เป็นสมรรถนะหลัก 6 ด้าน ตามผลลัพธ์ของการฝึกอบรม/หลักสูตรที่ระบุไว้ใน หลักสูตรและเกณฑ์การฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน เพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาวิชานิติเวชศาสตร์ ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย ฉบับ พ.ศ. 2561 (มคว.1 นิติเวชศาสตร์) ดังนี้
- ด้านการดูแลผู้ป่วยและทักษะทางหัตถการ (Patient care and procedural skill)
1.1 มีทักษะในการตรวจผู้ป่วยนิติเวชคลินิก และบันทึกหลักฐานทางการแพทย์ ตลอดจนสามารถเขียนรายงานการตรวจ การให้ความเห็นเกี่ยวกับผู้ป่วยคดีได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม สำหรับกรณีที่มีความซับซ้อนเกินความรู้ความสามารถของตนก็สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอื่นได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
1.2 มีทักษะในการชันสูตรพลิกศพร่วมกับพนักงานสอบสวนได้ทุกกรณี พร้อมทั้งจัดทำบันทึกแนบท้ายการชันสูตรพลิกศพ ณ สถานที่เกิดเหตุได้ และสามารถทำการผ่าศพที่ตายหรือสงสัยว่าตายโดยผิดธรรมชาติ เพื่อตรวจวินิจฉัยทางนิติเวชศาสตร์ ทั้งโดยวิธีตรวจด้วยตาเปล่า และวิธีตรวจชิ้นเนื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์ ร่วมกับวิธีการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น ที่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุการตาย ผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อไร ได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถเขียนรายงานการตรวจต่างๆ ดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และสมบูรณ์
1.3 มีทักษะในการเก็บหลักฐานทางคดีและตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการนิติเวชศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และเข้าใจการตรวจวิเคราะห์ รวมทั้งแปลผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางนิติเวชศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง
1.4 ให้คำปรึกษาทางนิติเวชศาสตร์ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
1.5 สามารถทำหัตถการทางนิติเวชศาสตร์ (Procedural skill) ได้แก่ การตรวจศพ และการตรวจชิ้นเนื้อ ได้อย่างถูกต้อง
1.6 สามารถให้ข้อมูลทางนิติเวชศาสตร์ต่อพนักงานสอบสวน และเบิกความเป็นพยานต่อศาลได้อย่างถูกต้อง
- ด้านความรู้ (Medical knowledge)
2.1 มีความรู้ความสามารถรอบด้านทั้งทางนิติเวชศาสตร์ ความรู้และวิทยาการใหม่ๆ ทางนิติวิทยาศาสตร์ และทางการแพทย์ วิทยาการระบาด พฤติกรรมศาสตร์ สังคมศาสตร์และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกฎหมาย และนำความรู้เหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการยุติธรรม
2.2 มีความรู้พยาธิกำเนิด พยาธิสรีรวิทยา เทคนิคการตรวจวินิจฉัยและบอกปัจจัยที่มีผลต่อสาเหตุการตาย
2.3 มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลสิ่งส่งตรวจทั้งระยะก่อนวิเคราะห์ ระยะวิเคราะห์ และระยะหลังวิเคราะห์
2.4 มีความรู้ในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทางนิติเวชศาสตร์ และการแปลผล
2.5 มีความรู้และสามารถวิเคราะห์ปัญหาสาธารณสุขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุและอุบัติภัยชนิดต่างๆ รวมทั้งอาชญากรรมเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อร่างกายและชีวิตประเภทต่างๆ ตลอดจนปัญหาของอุบัติการณ์อัตวินิบาตกรรมด้วย
- ด้านการเรียนรู้จากการปฏิบัติ และการพัฒนาตนเอง (Practice-based learning & improvement)
3.1 เรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์ได้ด้วยตนเองจากการปฏิบัติ
3.2 ดำเนินการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้
3.3 วิพากษ์บทความและงานวิจัยทางนิติเวชศาสตร์ได้
3.4 มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
- ด้านทักษะปฏิสัมพันธ์ และการสื่อสาร (Interpersonal and communication skills)
4.1 นำเสนอข้อมูลผู้ป่วยคดี/ผู้ตาย และอภิปรายปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
4.2 ถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แพทย์ นักศึกษาแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งพนักงานสอบสวน และนักกฎหมาย
4.3 สื่อสารให้ข้อมูลแก่บุคลากรทางการแพทย์ และผู้เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยมีเมตตา เคารพการตัดสินใจและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
4.4 มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำงานกับผู้ร่วมงานทุกระดับอย่างมีประสิทธิภาพ
4.5 เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำด้านนิติเวชศาสตร์แก่แพทย์และบุคลากรอื่น
- ด้านความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)
5.1 มีเจตคติ คุณธรรม และมนุษยสัมพันธ์อันดีต่อผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ญาติผู้ตาย และเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมทุกระดับที่เกี่ยวข้อง ตลอดถึงผู้ร่วมงานทุกคน
5.2 มีทักษะด้านที่ไม่ใช่เทคนิค (Non-technical skills) และสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้เหมาะสม
5.3 มีความสนใจใฝ่รู้และสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต (Continuous professional development)
5.4 มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
5.5 คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
- ด้านการปฏิบัติงานให้เข้ากับระบบ (System-based practice)
6.1 สามารถอธิบายขอบเขตการปฏิบัติงานและความรับผิดชอบของบุคลากรทางการแพทย์ทุกประเภท ในการที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับปัญหาสาธารณสุขของชุมชน
6.2 เข้าใจโครงสร้างของกระบวนการยุติธรรมของประเทศและสามารถอธิบายบทบาทของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในการสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมเพื่อผดุงความยุติธรรมในสังคม
6.3 ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าและเหมาะสม และสามารถปฏิบัติงานนิติเวชศาสตร์ได้ตามมาตรฐานวิชาชีพเพื่อให้เข้ากับระบบกฎหมาย
6.4 มีความรู้เกี่ยวกับระบบบริหารจัดการห้องปฏิบัติการ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการควบคุมคุณภาพห้องปฏิบัติการทางนิติเวชศาสตร์
6.5 มีส่วนร่วมในการตรวจสอบความผิดพลาดของระบบงาน และร่วมหาแนวทางแก้ไขและป้องกัน
โครงสร้างหลักสูตรและเนื้อหาที่ฝึกอบรม
1 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณสุข, วิชาชีพแพทย์ และการชันสูตรพลิกศพ
2 พยาธิวิทยาพื้นฐาน
3 พิษวิทยาพื้นฐาน
4 การชันสูตรพลิกศพ
5 การตรวจผู้ป่วยคดี
6 การทำวิจัยทางคลินิก และการวิเคราะห์ผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์แล้ว