การพิสูจน์ศพหรือชิ้นส่วนของศพว่าเป็นใครหรือของบุคคลใดนั้นเป็นการเปรียบ เทียบข้อมูลของผู้สูญหายกับข้อมูลที่พบจากศพ โดยศพที่พบอาจมาในหลายรูปแบบ เช่น ถ้าได้มาเป็นศพที่ครบถ้วนและยังไม่สลายตัวจากการเน่าการพิสูจน์อาจจะทำได้ ง่ายว่าเป็นใคร ถ้าได้มาเป็นชิ้นส่วนที่เน่าและไม่ครบถ้วน อาจจะต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นของคนหรือไม่ โดยการตรวจทางรูปร่างลักษณะของกระดูกชิ้นนั้นๆ หรือการถ่าย x-rays เปรียบเทียบลักษณะกระดูก
ในทางกลับกัน บางครั้งสิ่งที่พบเป็นคราบเลือดหรือสารคัดหลั่งอื่นเช่นน้ำอสุจิฯลฯ และต้องการตรวจว่าเป็นของใคร การตรวจจะเริ่มจากการตรวจว่าเป็นของคนหรือไม่ซึ่งอาจจะทำได้ไม่ยากด้วยการ ให้ทำปฏิกิริยากับน้ำยาที่ทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อของมนุษย์ จากนั้นจึงทำการตรวจต่อไปว่าเป็นของใครด้วยกรรมวิธีทางห้องปฏิบัติการต่อไป
การเปรียบเทียบสารพันธุกรรม(DNA identification)
สาร DNA (deoxyribose nucleic acid) เป็นสารประกอบที่ประกอบด้วยอณูของนิวคลีโอไทด์ (nucleotide) หลายๆอณูมาต่อกัน นิวคลีโอไทด์ประกอบขึ้นจากน้ำตาล ริโบส (deoxyribose sugar) อณูของโปรตีน(purine and pyridine) ยึดต่อกันเป็นเส้นยาวด้วยอณูของฟอสฟอรัส เป็นสายยาวเป็นร้อยเป็นพันล้านตัว
สายนิวคลีโอไทด์สองเส้นจะต่อกันด้วยอณูของเพียวรีน (purine) และไพริดีน (pyridine) เป็นสายคู่ยาวเรียกว่าโครโมโซม (chromosome) การเรียงตัวของ DNA ในแต่ละเส้นนิวคลีโอไทด์ในแต่ละคนจะไม่มีซ้ำกันยกเว้นในฝาแฝดที่เกิดจากไข่ ใบเดียวกัน
การเปรียบเทียบ DNA อาจจะใช้เทคนิค ที่ใช้สารบางอย่างตัดเส้นนิวคลีโอไทด์ออกเป็นท่อนๆ ส่วนของ DNA ที่เรียงตัวเหมือนกันบนเส้น นิวคลีโอไทด์จะถูกตัดออก ทำให้ได้เส้นนิวคลีโอไทด์หลายๆเส้นที่มีขนาดต่างๆกัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับเส้น นิวคลีโอไทด์ในคนๆเดียวกัน การถูกตัดก็จะถูกตัดที่เดียวกัน จำนวนท่อนของ DNA ที่ได้ก็จะเหมือนกันด้วย และสามารถเปรียบเทียบกันได้
หรือใช้เทคนิคของการตรวจหากลุ่มของDNAในส่วนต่างๆของโครโมโซมที่แสดงลักษณะ ของความซ้ำกันเป็นช่วงๆ (Short Tandem Repeated) ซึ่งจะถ่ายทอดทางกรรมพันธ์เช่นกัน ตัวอย่างเช่นตำแหน่ง DNAที่โครโมโซมคู่ที่หนึ่งที่เรียกว่า D1S80 ซึ่งมีกลุ่ม DNA ซ้ำกันหลายลักษณะ ทำให้เทื่อสามารถหาจำนวนที่ซ้ำกันของ DNA ที่จุดนี้แล้ว ก็สามารถบอกความแตกต่างในแต่ละคนได้ และสามารถใช้ในการพิสูจน์ตัวบุคคลได้เป็นอย่างดี
นอกจากจะใช้ DNAในการพิสูจน์บุคคลแล้วก็ยังอาจใช้ในการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ลูกโดยการ เปรียบเทียบลักษณะของ DNA เพราะ DNAในลูกต้องรับจากพ่อแม่มาคนละครึ่ง ในทางกลับกันการได้ DNAจากศพ ก็อาจจะนำไปเปรียบเทียบกับDNAของพ่อแม่ หรือบุตรภรรยาของผู้สูญหาย ว่าศพรายนี้เป็นบุตรหรือสามีของครอบครัวนี้หรือไม่ ซึ่งสถาบันนิติเวชใช้วิธีนี้ในการตรวจผู้สูญหายกรณีไฟไหม้ที่โรงแรม โรยัลจอมเทียน พัทยา เมื่อปี2540จำนวน6ราย และตรวจพิสูจน์บุคคลกรณีการบินไทยเที่ยวบินที่ TG261 ตกที่สุราษฏร์ธานี เมื่อปี 2541 จำนวน13ราย อย่างได้ผลดีมาแล้ว
วิทยาการก้าวหน้าในปัจจุบันเอื้อให้สามารถตรวจหาDNAได้จากส่วนต่างๆของ ร่างกายได้มากขึ้น เช่นคราบเลือด คราบอสุจิ กระดูก ฯลฯ ทำให้การพิสูจน์บุคคล สามารถได้แน่นอนมากขึ้น แม้นศพที่พบจะเหลือแต่กระดูกก็ตาม