แพทย์ประจำบ้านดีเด่น ปี 2557
บทสัมภาษณ์แพทย์ดีเด่น ปีการศึกษา 2557
สัมภาษณ์โดย ...
ศาสตราจารย์แพทย์หญิงจุฬาภรณ์ พฤกษชาติคุณ
ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครสวรรค์ จบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ขณะเรียนได้ทำกิจกรรมทีมเชียร์ ใช้ทุนที่
โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โรงพยาบาลตากฟ้าและโรงพยาบาลหนองบัว จ.นครสวรรค์ตามลำดับ ได้มีโอกาสทำงานเป็น
หัวหน้าทีมอนามัยแม่และเด็กที่โรงพยาบาลหนองบัวเริ่มชอบวิชากุมารฯตั้งแต่เรียนแพทย์ปีที่ 4 เนื่องจากชอบผู้ป่วยเด็กตรงที่
เด็กมีความสดใสร่าเริงเป็นธรรมชาติ จึงขอทุนโรงพยาบาลท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มาเรียนแพทย์ประจำบ้านกุมารฯ
ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ประสบการณ์ที่ได้รับในระหว่างฝึกอบรมที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (2555-2558) ดังต่อไปนี้คือ
การฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านกุมารฯ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สอนอะไรบ้าง
- ฝึกความเป็นผู้นำ รู้จักการตัดสินใจด้วยตนเอง และรู้จักวิธีการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้อื่น
- ฝึกความอดทน พร้อมเผชิญหน้ากับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ
- ได้เห็นผู้ป่วยหลากหลายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
- ได้ฝึกใช้เครื่องมือ เทคโนโลยีในการรักษาโรคต่างๆ
- มีทักษะในการค้นคว้าหาความรู้ในวิธีที่ไม่เคยทราบมาก่อน รวมทั้งการค้นคว้าจาก PubMed
เหตุการณ์/ ประสบการณ์ที่ดิฉันประทับใจในระหว่างฝึกอบรม
- ประทับใจอาจารย์และหัวหน้าภาควิชาฯ (อ.นพ.ธีรศักดิ์ บริสุทธิบัณฑิต) ที่ดูแลและเอาใจใส่แพทย์ประจำบ้านทุกคนใน
ทุกด้านถึงแม้ว่าดิฉันเรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยอื่นก็ไม่รู้สึกแตกต่างแต่อย่างใด ในระหว่างฝึกอบรมดิฉันประสบ
ปัญหาใหญ่คือบิดาป่วยหนัก จำเป็นต้องรับการผ่าตัดด่วนและมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด ดิฉันรู้สึกเครียดและ
ท้อแท้ คิดจะลาออกจากการฝึกอบรม เพื่อกลับไปดูแลบิดาขณะนั้นอาจารย์ได้ไปเยี่ยมบิดาและรับทราบปัญหาของดิฉัน
อาจารย์ได้อนุญาตให้ดิฉันหยุดพักชั่วคราวเพื่อไปดูแลบิดา จนบิดาเริ่มมีอาการดีขึ้นดิฉันจึงกลับมาเรียนต่อ- ประทับใจการร่วมมือกันในการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างองค์รวมเพื่อช่วยเหลือให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อาทิเช่น ขณะที่ดิฉันปฏิบัติงานเป็นหัวหน้าแพทย์ประจำบ้าน มีผู้ป่วยเด็กรายหนึ่งเป็นโรคมะเร็งสมอง มารดาเป็นเหยื่อของ
การถูกทำร้ายทางเพศ และย่าของผู้ป่วยถูกฆ่าต่อหน้าผู้ป่วย เด็กรายนี้และครอบครัวได้รับการดูแลอย่างดีด้วยความร่วมมือ
ของอาจารย์แพทย์สาขาประสาทวิทยา,โลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก, พัฒนาการและพฤติกรรม, จิตเวชผู้ใหญ่, พยาบาล
ประจำหอผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องและสังคมสงเคราะห์ ทำให้มารดาของผู้ป่วยเข้มแข็งขึ้นพร้อมกลับมาดูแลผู้ป่วยให้มีความหวัง
ในการรักษาโรคต่อไปหลักการสำคัญที่ดิฉันยึดถือในระหว่างฝึกอบรม คือ
- เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่ว่าเป็นผู้ป่วย ผู้ปกครอง เพื่อนร่วมงานซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่พยาบาล
- ขยัน อดทนต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้น
- รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ยอมรับข้อเสนอแนะและนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
- ตั้งใจในการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้ป่วยมีสุขภาพดี
- ตรงต่อเวลา และมีวินัยในตนเอง
- มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
วิธีการจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้ป่วย
- สื่อสารกับบิดามารดาและญาติของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- สร้างความคุ้นเคยกับผู้ป่วยและญาติ จนผู้ป่วยไม่รู้สึกกลัว
- รับฟังปัญหาของผู้ป่วย และช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้
- สื่อสารกับอาจารย์และแพทย์ประจำบ้านรุ่นพี่ ต้องรับฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของจากอาจารย์และแพทย์ประจำบ้านรุ่นพี่
แล้วนำมาปรับใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยรายอื่นต่อไปเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพของตัวเอง คือ
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกาย อย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
- ใส่ mask ทุกครั้งที่ตรวจรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
- ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสผู้ป่วย รวมทั้งอาบน้ำทันทีที่กลับถึงที่พัก
เทคนิคการศึกษาหาความรู้เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยและการสอบ
1. เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วย
อ่านตำรา ค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต, Intranet, PubMed, ปรึกษาอาจารย์เฉพาะทาง, เข้า Morning conference,
interesting case และประชุมอื่นๆ ของภาควิชาฯ ทำให้ได้เรียนรู้ประเด็นในการรักษาผู้ป่วยและนำไปประยุกต์ใช้กับผู้ป่วย
รายอื่นๆ ได้2. การเตรียมตัวเพื่อการสอบ
อ่านตำรา, Intensive review และประสบการณ์จากการที่ได้เห็นผู้ป่วยที่เคยดูแลรักษา
คำแนะนำแก่แพทย์ประจำบ้านรุ่นน้องที่ได้ไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลชุมชนแล้วกลับมาฝึกอบรม คือ
- ก่อนเป็นแพทย์ประจำบ้าน
- อ่านหนังสือ เตรียมความรู้ในสาขาที่จะเรียน
- เตรียมจิตใจ เปิดใจรับอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น
- ขณะเป็นแพทย์ประจำบ้าน
- บริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน แบ่งเวลาอ่านหนังสือช่วง 20.00-23.00 น.
และ 05.00-06.00 น.แบ่งเวลาออกกำลังกาย อย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ดิฉันชอบวิ่งที่บริเวณอ่างแก้ว
- มีกำลังใจที่สำคัญ คือ ครอบครัวและเพื่อน ครอบครัวช่วยทำให้ดิฉันได้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ได้ การได้พูดคุยกับครอบครัวทุกวันจะทำให้
ไม่รู้สึกว่าอยู่คนเดียว และจะทำให้เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้น เพื่อนร่วมงานมีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นแพทย์หรือพยาบาลล้วน
เป็นคนที่ทำให้ดิฉันทำงานและดูแลผู้ป่วยต่อไปได้เพราะดิฉันไม่สามารถทำงานคนเดียวได้เสมอไป
- จัดการความเครียด ทุกคนมีความเครียด แต่ต้องรู้ตัวว่ากำลังเครียด และหาวิธีจัดการกับความเครียดนั้น แต่หากรู้สึกว่าเครียดจนทำงาน
ต่อไม่ไหว ก็ต้องหาเวลาผ่อนคลายความเครียดเพื่อชาร์ตพลังงานให้ตัวเองดีขึ้น เช่น นั่งสมาธิ สวดมนต์ ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ