ลูกเจ็บอก ! ทำอย่างไรดี?
ลูกเจ็บอก ! ทำอย่างไรดี?
อาการเจ็บอกเป็นอาการที่พ่อแม่มักจะไม่เข้าใจและมักกลัวว่าลูกอาจมีอันตรายถึงชีวิตเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ที่เจ็บอก แม้ว่าอาการเจ็บอกจะพบได้บ่อยในเด็กแต่สาเหตุที่เกิดจากโรคหัวใจเพียง 3-5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง?
ส่วนใหญ่แล้าสาเหตุมักจะไม่ร้ายแรงอะไร อาการเจ็บอกที่พบบ่อยมักมาจากระบบกล้ามเนื้อเส้นเอ็นและกระดูก และระบบหายใจ ส่วนระบบลำไส้และจากจิตใจพบได้น้อยกว่า
สาเหตุที่พบบ่อยจากมากไปหาน้อยได้แก่ ไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic เช่น precordial catch syndrome), กล้ามเนื้อ เอ็นและกระดูก (musculoskeletal), ไอมาก, การอักเสบที่รอยต่อของกระดูกอ่อนและกระดูกซี่โครง (costo-chondritis), หอบหืด (asthma), บาดเจ็บที่ทรวงอก (trauma), ปอดอักเสบ(pneumonia), จากจิตใจเช่นความกังวล เครียด(psychogenic origin), กระเพาะอาหารและลำไส้(GI disorders) เช่นกรดไหลย้อน, โรคหัวใจ เช่นลิ้นหัวใจตีบมาก กล้ามเนื้อหัวใจหนาหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Cardiac diseases: aortic stenosis, anomalous coronary artery, hypertrophic cardiomyopathy, pericarditis, arrhythmias)
อาการอย่างไรที่บ่งบอกว่าเด็กอาจต้องการการตรวจเพิ่มเติม?
หากอาการเจ็บอกนั้นเป็นมากจนทำให้เด็กต้องตื่นขึ้นมาตอนกลางคืน เป็นอย่างกะทันหัน พบร่วมกับไข้ ไอ หอบเหนื่อยหรือความผิดปกติทางร่างกายอื่นๆ เช่นเกิดเมื่อออกกำลังกาย ใจสั่นหรือหน้ามืดเป็นลมร่วมด้วยผู้ปกครองควรจะพาเด็กไปพบแพทย์ แต่หากอาการเป็นมานานกว่า 6 เดือนแล้วและโดยทั่วไปเด็กสบายดีไม่มีความผิดปกติอย่างอื่นมักจะไม่มีอะไรร้ายแรง การดูแลก็เพียงให้เด็กพักหรือรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลแล้วสังเกตอาการ อย่างไรก็ตามหากประเมินไม่เป็นหรือไม่แน่ใจก็ควรไปพบแพทย์
สำหรับแพทย์ทั่วไปหากมีอาการเหล่านี้ควรส่งผู้ป่วยต่อไปยังกุมารแพทย์โรคหัวใจ
1. เจ็บอกเมื่อออกกำลัง
2. มีใจสั่น หน้ามืด เป็นลม
3. หัวใจเต้นผิดจังหวะ (rhythm disturbances)
4. มีประวัติผ่าตัดหัวใจมาก่อน
5. มีประวัติครอบครัวเสียชีวิตกะทันหันหรือ hypertrophic cardiomyopathy
6. เคยเป็นโรคคาวาซากิ Marfan syndrome หรือ ลิ้นหัวใจตีบ (aortic stenosis)
เรียบเรียงโดย รศ. พญ. ยุพดา พงษ์พรต