ศ.ดร.พญ.ลักขณา ไทยเครือ

Video link

รายการสุขภาพดี…กับหมอสวนดอก ตอน แมงกะพรุนกล่อง

 

หมอ well(ness) หรือ หมอเวร .. ชีวิตที่เลือกได้

 

ผู้บาดเจ็บจากแมงกะพรุนกล่องชนิดสายเดียว วิธีราดน้ำส้มสายชูระงับการยิงเข็มพิษที่ถูกต้อง

 

My Favorite Comment

เรื่องหมาบ้าที่ไม่บ้า แต่ปล่อยหมัดเด็ด

 

“คันไปหมดเลย” เสียงแม่บ้านบ่นอุบ พร้อมเกาเอว

“หนูก็คัน” เจ้าหน้าที่ธุรการสนับสนุนขณะที่เกาขาไปด้วย

“เมื่อวานมีนักศึกษาเป็นผื่นแดงคันทั้งตัว ต้องไปหาหมอ”

ทั้งอาจารย์ นักศึกษา เจ้าหน้าที่ธุรการ แม่บ้านมายืนจับกลุ่มบ่นไปเกาไปตรงทางเดินชั้นหนึ่งที่ทำงาน มันเกิดอะไรขึ้นถึงได้คันกันมากมายหลายคน

“อาการเป็นยังไง”

“มันคันมากค่ะ ขาลายหมดละเนี๊ยะ”

“ไหน ขอตรวจดูหน่อยค่ะ”

ฉันก้มลงดูที่เท้าพบลักษณะแผลเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ กระจายตามเท้า และขา แต่ละคนมีเป็นสิบ ๆ ตุ่ม ในกลุ่มผู้ที่ใส่กระโปรง แต่ถ้าใส่กางเกงและไม่ได้เอาชายเสื้อเข้าในกางเกงจะพบแถวเอวด้วย  ส่วนผู้ชายพบที่แขนและคอ เห็นแล้วชักคันขึ้นมาตงิด ๆ

“เป็นเมื่อไหร่”

“เพิ่งคันวันสองวันนี้ละค่ะ”

 

ส่วนแม่บ้านโดนเยอะสุด

“คันครั้งแรกเมื่อไหร่” ฉันสักถามเพิ่ม

“จันทร์ที่แล้วค่ะ แต่ไม่มาก ไปกรุงเทพกลับมาก็คัน วันพุทธพฤหัสนี้คันมาก”

“เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า”

“ไม่เคย”

ฉันว่ามันผิดปกติแล้วหละ มีอาการตุ่มแดงและคันกันหลายคนในเวลาอันสั้น

“ตอนแรกก็นึกว่าแพ้น้ำ ต้องเป็นหมัดหมากัดแน่ ๆ เลย”

“ไปยุ่งกับหมาตอนไหน”

“มันมานอนตรงบันไดหน้าที่ทำงานนี่แหละ อากาศมันร้อน หมัดก็ออกมากัดคน” แม่บ้านบอกทฤษฏีสาเหตุหมัดกัดคน ซึ่งมีหลายเสียงสนับสนุน

สัญชาตญาณหมอนักสืบทำให้ไม่ปักใจเชื่อ เพราะมันก็ร้อนมาอย่างนี้ทุกปี หมาก็มาวนเวียนอยู่ตั้งนาน และที่สำคัญ นิสัยหมัดมันไม่จู่โจมกัดคนเป็นกองทัพอย่างมโหฬารอย่างนี้ มันต้องตายอดตายอยากจึงมากัดกินเลือดคน

ทุกคนต้องเดินผ่านบันไดหน้าภาควิชาเพราะเป็นต้องผ่านเครื่องอ่านลายนิ้วมือก่อนเข้าที่ทำงานได้ พอทราบว่าเกิดอะไรขึ้นก็ใช้วิชาตัวเบาวิ่งบ้างกระโดดบ้าง เผ่นเผ่วเข้าภาคปานประหนึ่งศิษย์เส้าหลิน

“อาจารย์ หมัดเต็มบันไดหน้าประตูเลย นักศึกษาต้องเข้ามาเรียนหนังสือด้วย” เสียงหัวหน้าภาควิชาเต็มไปด้วยความกังวล

“เอาอย่างนี้ค่ะ ปิดประตูด้านหน้า ใช้ประตูข้างไปก่อน เดี๋ยวขอสอบสวนหาสาเหตุการระบาดและหาทางควบคุมป้องกันต่อ”

น้องธุรการช่วยกันใช้เทปปิดรอยต่อประตูให้สนิท ติดป้ายงดใช้  ติดต่อหน่วยอาคารสถานที่พ่นยากำจัดหมัดแก้ปัญหาฉุกเฉินไปก่อน

 

มันผิดวิสัยที่หมัดจะกัดกินเลือดคน (accidental host) เป็นอาหารหลักเพราะสภาพความเป็นอยู่ไม่สัปปายะ สู้หาอยู่หากินกับหมาแมวหนูไม่ได้  นอกจากนั้นมันยังมาเป็นกองทัพมหึมากระโดดจู่โจมอย่างรวดเร็วแบบต้งตัวไม่ติด ต้องมีอะไรผิดปกติสักอย่าง อาทิเช่น สัตว์ที่มันอาศัยอยู่ตายต้องอพยพย้ายบ้านกะทันหัน และลูกหลานออกมาเต็มบ้านเต็มเมืองจนต้องขยับขยายที่อยู่ที่กิน

ฉันจึงติดต่อเครือข่ายหมอระบาดวิทยาเพื่อหาข้อมูล แล้วก็ได้สัตวแพทย์ลูกศิษย์ของลูกศิษย์อีกทีซึ่งทำงานแล้วและมาเรียนเพิ่มด้านระบาดวิทยาภาคสนาม กำลังต้องการฝึกสอบสวนโรคพอดี  เราจึงลุยกันไม่มีวันหยุดตั้งแต่วันพุทธที่ฉันสงสัยว่าเกิดเรื่องตียาวราวสี่สัปดาห์ ทำตั้งแต่สอบสวนโรค ควบคุม ป้องกัน เฝ้าระวัง

เราวางจานดักหมัดโดยใช้น้ำสบู่หรือแชมพูผสมน้ำใส่จานขนาดเดียวกันเพื่อคำนวนดูความหนาแน่นและตำแหน่งที่เกิด วางทั้งาภายนอกภายในอาคาร ทางคนเดินหมาเดิน

 

 

ชั้นบนอาคารก็ต้องวางด้วย หมัดมันไม่ได้มีวิทยายุทธิ์กระโดดเหาะเย็ง ๆ ขึ้นไปได้ แต่มันเกาะติดเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ไปได้ พบว่านักศึกษาไปใช้ห้องต่อยังโดดกัดเลย นอกจากนี้มันอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้หลายสัปดาห์หลังอิ่มเลือดแล้ว ไม่ต้องตะเกียกตะกายหากินไปวัน ๆ

หมัดเกาะติดไม้กวาดมาได้ด้วย ดังนั้นต้องใช้เครื่องดูฝุ่นแทนช่วงที่มีการระบาด ถ้าไม่มีเงินก็ใช้ไม้ถูพื้นที่เก็บฝุ่นได้

 

เราไปสืบจากคนที่เป็นเหยื่อก่อนเพราะผู้ต้องสงสัยที่เป็นหมาไม่พูดด้วย สอบถามทั้งผู้ที่โดนและไม่โดนกัดทั้งที่ทำงานและหน่วยงานใกล้เคียงเพื่อให้ได้ข้อมูลว่าเกิดกับใคร เมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร

 

สะกดรอยผู้ต้องสงสัยตามหมาผู้ต้องสงสัย หาข้อมูลวิถีชีวิตว่าไปแห่งหนตำบลใด กินอยู่อย่างไร ค้นหาผู้ต้องสงสัยและผู้สมรู้ร่วมคิด ไม่ว่าจะเป็นแมวและหนู

สืบไปสืบมาก็ได้ความว่า เจ้าสคิดเป็นหมาไร้นายมาอาศัยอยู่ใต้ถุนตึกแถวหอผู้ป่วยจิตเวชอย่างน้อยสองปีแล้ว ด้วยท่าทางที่หวาดระแวง แยกตัว ไม่คอยสุงสิงกับคนสักเท่าไหร่ยกเว้นป้าที่ให้อาหารมันได้คนเดียว จิตแพทย์จึงขนานนามมัน ว่า schizophrenia ซึ่งเป็นชื่อโรคจิตเภท ต่อมาชื่อก็หดสั้นลงเหลือ ‘สคิด’ ปีนี้มันมีครอบครัวพวกพ้องราว 4-5 ตัว  มันขยายบ้านโดยการขุดมุดรั้วหอผู้ป่วยลัดสนามหญ้ามาขุดอุโมงลอดเข้ามาอาศัยอยู่ใต้ถุนตึกที่ฉันทำงาน สงสัยชาติก่อนเจ้าสคิดถ้าจะเกิดเป็นวิศวกร ตายมาเป็นหมาชาตินี้จึงเก่งนักเก่งหนาเรื่องวิศวกรรมโยธา  เนื่องจากตึกที่ทำงานเป็นพื้นปูนไม่มีทางออกยกเว้นรอยแยกตรงรูขั้นบันไดหน้าภาควิชา เหล่าประชากรหมัดจึงแห่แหนกันออกมาหน้าภาค อีกทั้งหน่วยสืบเราทราบจากพยานหลายปากว่าเจ้าสคิดและพรรคพวกเคยมาอาศัยนอนเอนกายหลบร้อนในบางเพลา

เราสืบย้อนกลับไปพบว่ามีทั้งพยาบาลและผู้ป่วยโรคจิตโดนหมัดกัดบริเวณสนามหญ้าตั้งแต่ มกราคม 2561 เป็นต้นมา ได้แจ้งหน่วยงานอาคารสถานที่ ซึ่งได้ให้พนักงานมาพ่นยา ประมาณ 1-2 ครั้ง แต่ไม่ดีขึ้น จึงงดเว้นไม่ลงไปสนามหญ้าที่เชื่อมต่อระหว่างหอผู้ป่วยและตึกที่ฉันทำงานหลายสัปดาห์ พอวันที่  26-28 มีนาคม โดนกัดมากขึ้นจึงพ่นยา ส่วนบุคลากรและนักศึกษาซึ่งมาที่ทำงานฉันโดนกัดเล็กน้อยกระเส็นกระสายในช่วงวันที่ 19 – 23 มีนาคม โดยขณะนั้นไม่ทราบว่าโดนหมัดกัด  พอวันที่ 26 –29 มีนาคม โดนกันระนาวเกือบหมดทุกคนที่เข้ามาภาควิชา

จากการดักหมัดพบว่ามันขยายกำลังพลกระจายไปทั้งสองภาควิชา มีความหนาแน่นมากบริเวณบันไดหน้าที่ทำงานฉันและสนามหญ้าหอผู้ป่วยจิตเวชซึ่งติดกับอุโมงเข้าใต้ถุนตึกที่ทำงานฉัน หรือประตูสู่เคหาสหลังที่สองของเจ้าสคิด  เรายังดักได้หนู black/roof rat 1 ตัว  พบที่อยู่อาศัยของเจ้าสคิดและครอบครัวบริเวณใต้ถุนตึกทั้งสองหน่วยงานซึ่งกำแพงทะลุถึงกัน หมาทั้งพรวนเข้านอกออกในได้สบายใจเฉิบ รวมถึงทะลุไปที่อื่นได้อีกด้วย

 

การระบาดน่าจะเกิดจากประชากรหมัดที่เพิ่มขึ้นจากหมาที่มีมากขึ้นและสัตว์ที่เป็นรังโรคอื่นอาจจะเพิ่มขึ้นด้วย อาทิเช่น หนูบางสายพันธ์  ผนวกกับการกำจัดในระยะแรกเมื่อต้นปีนั้นไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นยาที่ไม่ได้ผลกับหมัดที่ระบาดอยู่หรือไม่ (ดื้อยา) อีกทั้งไม่ได้กำจัดตัวอ่อน รวมถึงอาจจะมีประเด็นสัตว์ตายร่วมด้วยทำให้หมัดต้องอพยบย้ายที่อยู่ที่กินกระทันหัน

เราจับผู้ต้องหาบรรดาหมัดเพื่อเก็บตัวอย่างไปพิสูจน์ ปิดใต้ถุนตึกและรูต่าง ๆ ที่หมาแมวจะเข้านอกออกในได้ พ่นยากำจัดหมัดทั้งตัวแก่และตัวอ่อนในดิน

 

วางจานดักหมัดเพื่อติดตามดูว่าการควบคุมป้องกันได้ผลหรือไม่ รวมถึงเฝ้าระวังในคนด้วยว่าใครยังโดนหมัดกัดหรือเกาะแกะสารภางค์กายอีก

 

จากการพ่นยาแก้ปัญหาฉุกเฉินในเบื้องต้น โดยหน่วยงานอาคารสถานที่ ซึ่งได้ให้พนักงานมาพ่นยาวันที่ 29 มีนาคม ได้ผลชั่วคราว เนื่องจากเรายังพบหมัดที่ดักจับจำนวนมากอยู่ ทีมเราเอามืออาชีพมาพ่นยาฆ่าแมลง โดยใช้น้ำยาที่คงฤทธิ์อยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น ประมาณ 6-12 ชั่วโมง จากนั้นพ่นอีกครั้งเพื่อกำจัดตัวอ่อน ต้องใส่ชุดป้องกันเต็มยศหัวจรดเท้าใส่หน้ากากเสมือนออกรบ

 

มีอยู่ท่านหนึ่งรูดซิบไม่สุด เจอฝูงหมัดกระโดดกัดคอถึงพุง ต้องล่าถอยพ่ายแพ้กลับคืนสู่ป้อมรบในฉับพลันทันใด

 

 

การทำงานสอบสวนโรคโดยไม่มีชุดป้องกันก็เสี่ยงแหมือนกันนะ

 

ฉันโดนกัดตอนไปสอบสวนโรคระบาดนี่แหละได้มา 3-4 แผล พอคัน ๆ มัน ๆ

 

เราเข้ายึดบ้านเมืองเจ้าสคิดปิดทางสัญจรเข้าออกทุกทางรวมนิวาสถานใต้ถุนตึกด้วย ส่วนบันไดด้านหน้าที่ทำงานก็เอาปูนโบกไม่ให้หมัดเข้าออกได้หลังพ่นยารอบสาม เผด็จศึกแบบตอกปิดฝาโลงเลยละ

 

ประชากรหมัดที่ดักได้มีเพียบจำนวนมากและหลายจาน เรานำข้อมูลมาทำแผนที่วิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลคนกับสัตว์ตามเวลาและสถานที่

 

ส่งตัวอย่างหมัดที่ดักได้ไปให้หมอแมง (อาจารย์กีฏวิทยา) หาชนิดของหมัด (เป็นพาหะเชื้อกาฬโรคหรือไม่) และส่งดินเพื่อหาตัวอ่อนของหมัด

 

พบทั้งชนิดหมัดหมากับหมัดแมว ตัวอวบอ้วนน่ารักน่าชัง

 

 

ซึ่งต้องเฝ้าระวังติดตามปริมาณหมัดหลังพ่นยาเพื่อประเมินผลการควบคุมป้องกันและวางแผนรบต่อจนกว่าจะไม่มีราษฎรใดโดนหมัดกัดอีก

 

ทั้งนี้ได้เรียนเสนอแนะผู้บริหารเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการในระยะยาวในการควบคุมป้องกันอย่างเป็นระบบทั้งองค์กร

การเอาหมาแมวไปปล่อยวัดเป็นการทำบุญหรือทำบาปกันแน่เพราะนอกจากพระเณรแม่ชีต้องเลี้ยงดูแล้ว ยังเสี่ยงเป็นโรคพิษสุนัขบ้า โดนหมัดกัด ถ้าแพ้ก็แผลพุพองคันเป็นเดือน ถ้ามีหมัดที่นำเชื้อกาฬโรคได้ก็เสี่ยงอีก

เรื่องหมาบ้า (โรคจิตเภท) ที่ไม่บ้า (ไม่เป็น rabies) และปล่อยหมัดเด็ด ก็จบลงด้วยประการนี้

เจ็บหนักจากแมงกะพรุนกล่องอีก.. ราดดี..ไม่ราดดี …ราดอะไรดี

     

 ปีนี้ดุมาก ตั้งแต่ต้นปีมามีผู้โดนแมงกะพรุนกล่องหลายรายทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย และพบผู้บาดเจ็บรุนแรงอาการปางตายถึง 4 ราย ซึ่งในกลุ่มนี้ต้องปั๊มหัวใจจนรอดตาย 3 ราย นี่ยังไม่รวมรายที่บาดเจ็บไม่รุนแรงนะ

      เดือนมิถุนายนนี้ฉันเหลือวันที่ 29 วันเดียวที่พอจะไปประชุมคณะทำงานด้านสัตว์ทะเลมีพิษและมลพิษทางทะเลได้ เพื่อให้ข้อมูลและความรู้ล่าสุดเกี่ยวกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากแมงกะพรุนพิษรวมถึงแนวทางในการรักษาพยาบาล  ได้เชิญหน่วยงานและสถาบันต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นพิเศษ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แพทย์ทหารเรือ มหาวิทยาลัยบูรพา ศูนย์พิษวิทยารามา และศูนย์ต่าง ของกระทรวงทรัพย์

      นั่งรถจากสนามบินมาที่ประชุมตรงศูนย์ราชการใช้เวลานานกว่าบินจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพเสียอีก นั่งจนรู้เรื่องชีวิตส่วนตัวคนขับรถ ไม่ว่าจะไปซื้อชะอม ชมสาว สอนลูกแก้มือถือเปียกน้ำ จนไปถึงเรื่องพ่อ

 

บรรยากาศในการประชุมดีมาก สนุก สร้างสรรค์ เจอคำถามกระหน่ำรอบด้าน ตอบจนคอแห้งฉี่เหลืองจากขาดน้ำ  เพราะยังเขียนตำราให้ไม่ทัน จึงอาศัยหน่วยความจำของสมองแก่ ๆ เก็บไว้ในพื้นที่อันจำกัดแบ่งกับดนตรีบำบัด โรคอ้วน และแผนยุทธศาสตร์  สมองก้อนน้อยมันเริ่มเหี่ยวตามอายุขัยแล้ว

       ประเด็นที่เน้นย้ำในที่ประชุมคือการให้ข่าวหรือสื่อความรู้ที่ก่อให้เกิดความสับสนและมีผลกระทบทั้งด้านการช่วยเหลือที่ถูกต้องและตื่นตระหนก  อาทิเช่น เมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวพบแมงกะพรุนกล่องจำนวนมาก ในน่านน้ำทะเลของจังหวัดกระบี่กับตรัง  ในเนื้อข่าวระบุ “หากได้รับพิษในปริมาณมาก หรือพิษเข้าสู่กระแสเลือดก็จะแล่นเข้าสู่หัวใจ ทำให้หัวใจหยุดเต้นและระบบหายใจล้มเหลวจนเสียชีวิตได้ภายใน 2-10 นาที”  ซึ่งหมายถึง สกุล Chironex sp.  ที่ทำให้ตายได้

(ที่มา: อุษาวดี เดชศรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทัรพยากรทางทะเลและชายฝั่ง)

   แต่ตัวที่เจอนั้นเป็นคนละชนิดกัน คือ Chiropsoides buitendijiki  ถ้าดูไม่เป็นจะมีลักษณะภายนอกคล้ายกัน ผิดตัว เจ้านี่เลยเป็นแพะรับบาป เท่าที่ฉันเคยพบผู้ที่โดนหนวดมีอาการเพียงเล็กน้อย คือคันและแผลบวมแดง ซึ่ง 2-3 วัน ก็หาย

(ที่มา: อุษาวดี เดชศรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทัรพยากรทางทะเลและชายฝั่ง)

       อีกประเด็นปัญหาคือข้อมูลวิชาการที่ทำในห้องทดลองของผู้มีชื่อเสียงออกมาแนะนำว่าราดน้ำส้มแล้วทำให้ยิงเพิ่มขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ล่อเป้ามากเพราะมีนักผู้เชี่ยวชาญและเทพในวงการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ความไม่น่าเชื่อถือของผลการศึกษา อาทิเช่น วิธีการทำ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ผิด และการอภิปรายผลเกิดจริงไปจากข้อมูลที่มี เรียกว่างานเข้าเชียวหละ (รายละเอียด อ่านเพิ่มได้จาก http://oknation.nationtv.tv/blog/lakthai)

 ทีนี้มาถึงคำถามคาใจที่ว่า

 “ราด ไม่ราดดี?” 

“ราดอะไรดี?”

      ข้อมูลล่าสุดจากสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล  มหาวิทยาลัยบูรพา ที่กรุณาส่งมาให้ฉันได้เผยแพร่เป็นวิทยาทาน คือการเก็บตัวอย่างแมงกะพรุนกล่องหนวดหลายสายที่มีพิษร้ายแรง สกุล Chironex sp.  จากจังหวัดตราดมาทดลองดูว่าถ้าหยดน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำส้มสายชูจะทำให้กระเปาะยิงเข็มพิษเป็นอย่างไร ผลการทดลองน่าสนใจมาก

      ก่อนอื่นมาดูลักษณะหนวดที่ยังไม่โดนอะไรก่อน (รูป ก) จะเห็นกระเปาะบรรจุเข็มพิษฝังในเนื้อเยื่อเหมือนขนแปรงอ่อนเป็นปุยดูนุ่มนวลน่ารัก (รูป ข)

 

ถ้าส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายจะเห็นเป็นมะละกอลูกยาวเรียวลงด้านปลาย

เมื่อหยดน้ำจืดลงไปบนหนวด

 

ผลพบว่ามีการยิงเข็มพิษออกมาทันที จำนวนการยิงเข็มพิษมีปริมาณมากอย่างรวดเร็วจนนับไม่ทัน (ภาพ ง)

เมื่อหยดน้ำทะเลลงไปบนหนวด

       ใช้น้ำทะเลที่ความเค็มใกล้เคียงกับบริเวณที่พบแมงกะพรุนกล่องหยดลงบนหนวด พบว่ามันยังยิงได้ถึงแม้นว่าปริมาณเข็มพิษที่ยิงออกจากกระเปาะมีปริมาณน้อยกว่าที่ทดสอบโดยใช้น้ำจืด (เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ปริมาตรน้ำเท่ากัน) และเมื่อลองพ่นน้ำเค็มใส่เนื้อเยื่อแมงกะพรุนให้แรงขึ้น เข็มพิษจะถูกยิงออกมาเพิ่มขึ้น ดังนั้นประเด็นที่นักวิชาการออกมาแนะนำให้สาดน้ำทะเลน่าจะต้องพิจารณาใหม่

เมื่อหยดน้ำส้มสายชูลงไปบนหนวด

 พบว่าเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวเปื่อยและขาดง่าย สีบริเวณที่ทำการทดสอบเปลี่ยนจากใสสลับน้ำตาลอ่อน  เป็นสีขาวขุ่น

“อยากจะรู้ว่ากระเปาะมันยังยิงเข็มพิษได้อยู่ไหม หลังราดน้ำส้ม?”

          ทดสอบโดยการหยดสิ่งมีชีวิตแพลงก์ตอน (Artemia sp.) ซึ่งเป็นอาหารของแมงกะพรุนลงไปบริเวณหนวดที่หยดน้ำส้มสายชูก่อนหน้านี้ พบว่ามันว่ายน้ำไปสัมผัสเนื้อเยื่อแมงกะพรุนได้อย่างสบายใจเฉิบ ไม่มีการยิงเข็มพิษเพิ่มขึ้น (ภาพต่อเนือง ก- ง)

“คนไม่ใช่แมว.. เอ๊ย แพลงก์ตอน ผลมันเป็นยังไง?”

       จากประสบการณ์ในประเทศไทยของฉัน พบว่าผู้ที่บาดเจ็บรุนแรงซึ่งได้น้ำส้มสายชูราดในขั้นตอนปฐมพยาบาลส่วนใหญ่รอดชีวิต ในขณะที่ผู้บาดเจ็บรุนแรงซึ่งไม่ได้น้ำส้มสายชูราดส่วนใหญ่เสียชีวิต  นอกจากนี้ยังพบว่าถ้าทำอย่างถูกต้อง (ราดทันทีและปริมาณเพียงพอต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที) ทำให้ลดความรุนแรงของบาดแผลและนอนโรงพยาบาลน้อยลง

 

“ถ้าไม่ได้ราดทันที ใช้บัตรแข็งขูดหนวดได้ไหม?”

       ฉันเคยพบผู้บาดเจ็บรุนแรงหมดสะติหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น แต่ได้น้ำส้มสายชูหลังโดนประมาณ 15 นาที พร้อมทั้งกู้ชีพ แล้วยังรอดชีวิต หลักฐานสนันสนุนรายล่าสุดเกิดเหตุในเดือนมีนาคมปีนี้ เป็นเด็กออสเตรเลียอายุ 11 ขวบ เด็กโดนแมงกะพรุนกล่องหนวดหลายสายแล้วหมดสะติในไม่กี่นาทีพ่อเป็นนักดับเพลิงอุ้มขึ้นมาชายหาดปั๊มหัวใจ ในขณะที่แม่วิ่งไปหาน้ำส้มชายชูที่ร้านอาหาร พ่อแม่ทราบว่าต้องไม่สัมผัสหรือดึงหนวดออก เด็กรอดตาย (https://www.tripadvisor.com.sg/ShowTopic-g1499981-i14481-k10502710-BEWARE_Lethal_Jellyfish-Krabi_Province.html#83477662) ดังนั้น ฉันคิดเห็นว่า ณ ความรู้ในปัจจุบันควรใช้น้ำส้มสายชู ไม่ควรใช้บัตรแข็งหรือสิ่งต่าง ๆ มาขูด ถู หรือดึงหนวดออก ทั้งนี้ ในบริบทของไทยเรานั้น ตามสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้ติดตั้งเสาพยาบาลน้ำส้มสายชูแล้ว หรือสามารถหาได้ตามร้านอาหารบริเวณชายหาดที่มีอยู่เพียบโดยไม่เสียเวลามากนัก (พบแล้ว…เตือนให้ป้องกันในช่วงนี้  http://oknation.nationtv.tv/blog/peeguay/2014/01/02/entry-1 )

  ฉันต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ผู้ชำนาญการที่เรียนจบมาทางด้านแมงกะพรุนโดยเฉพาะ เป็นแค่หมอนักสืบ (ระบาดวิทยา –Epidemiologist ) ที่ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทีมงานหลากหลายอาชีพ เรียนรู้เก็บข้อมูลเองตลอด  9 ปี ที่ผ่านมา ข้อมูลเก็บได้ยากเพราะเป็นเรื่องน่าสิ่วหน้าขวาน ความเป็นความตาย มีความอ่อนไหวทางการเมืองและคดีความ สวนกระแสความเชื่อ รวมถึง ไม่มีความรู้มาก่อน ขาดห้องปฏิบัติการ ขาดผู้เชียวชาญในระยะเริ่มแรก จึงขึ้นกับวิจารณญาณของท่านผู้อ่านค่ะ

 

Books

Published Articles by PG

I am text block. Click edit button to change this text. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.